วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ค่ะ วันนี้มานำเสนอ BlackBerry Bold 900 - แบล็คเบอร์รี่


ข้อมูลทั่วไป BlackBerry Bold 900 - แบล็คเบอร์รี่
เปิดตัวครั้งแรก 13 พฤษภาคม 2008 (สยามโฟนฯ)
ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2008 (ธันวาคม 51)
ราคามือถือ (เปิดตัว) 25,500 บาท (ธันวาคม 51)


ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)
ระบบ UMTS / Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)
จอแสดงผล TFT-LCD 65K สี - 480 x 320 พิกเซล
ปุ่มควบคุม Trackball 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key) - แป้นพิมพ์ QWERTY ในตัว (Full QWERTY keycommunity)

เสียงเรียกเข้า MP3, Polyphonic- ระบบสั่น (Vibration in Phone)
CPU : 624 MHz mobile processor
หน่วยความจำ 1 กิ๊กกะไบต์ (ตัวเครื่อง) - การ์ดหน่วยความจำ MicroSD / SDHC - สูงสุด 16 GB



ระบบเชื่อมต่อและส่งข้อมูล (Connectivity)
ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)- WiFi 802.11b/g, WLAN (Wireless LAN) - บลูทูธ Bluetooth™ v2.0 , USB v2.0 - รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (Bluetooth™ stereo sound)



ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML, WAP 2.0 Browser
รับ-ส่งข้อความ (Messaging)- อีเมล์ Email, MMS, SMS ผ่าน 3G-HSDPA, EDGE, GPRS
รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษ (Feature)
ระบบค้นหาตำแหน่ง GPS พร้อมแผนที่ BlackBerry® Maps
กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช (Digital Camera)- ซูมดิจิตอล 5 เท่า (5x Digital zoom)
บันทึกภาพวีดีโอ พร้อมเครื่องเล่น (Video recording & Playback)
เครื่องเล่น Media Player - อีควอไลเซอร์ 11 แบบ
คำสั่งเสียง, โทรออกด้วยเสียง (Voice Activated Dialing)
สนทนาพร้อมกันหลายสาย (Conference calling)
เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (Noise Cancellation Technology)



การใช้งานของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่มาตรฐาน 1,500 mAh (Standard Battery)
เปิดรอรับสาย 13 วัน (Standby Time)




สนทนาต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง (Talk Time)
ข้อมูลผู้ใช้ แสดงความเห็นกับ BlackBerry Bold 9000 [PIC & VOTE]รายละเอียด : ฺBlackBerry Product Page [ENG SITE]
ค่ะก็ไม่ได้แนะนำให้เพื่อนซื้อแต่บางคนยังไม่รู้จักนะคะดิฉันก็เลยนำมาให้ดูกันคะว่าเป็นยังไง
อ่าที่นี้เพื่อนๆคงรู้จักกันแร้วนะคะว่าเป็นยังไง
^^,,
.

"Trick or Treat?" ,, เพื่อนๆรู้จักกันป่าว ??


ประเพณี ทริก ออร์ ทรีต

ในสหรัฐอเมริกาคือการละเล่นอย่างหนึ่งที่เด็กๆ เฝ้ารอคอย ในวัน ฮาโลวีน ตามบ้านเรือนจะตกแต่งด้วย โคมไฟฟักทอง และ ตุ๊กตาหุ่นฟาง ที่เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลประเพณีเก็บเกี่ยว (Harvest) ในช่วงเดียวกันนั้น แต่ละบ้านจะเตรียมขนมหวานที่ทำเป็น รูปเม็ดข้าวโพดสีขาวเหลืองส้ม ในเม็ดเดียวกัน เรียกว่า Corn Candy และขนมอื่นๆไว้เตรียมคอยท่า ส่วนเด็กๆ ในละแวกบ้านก็จะแต่งตัวแฟนซีเป็นภูตผีมาเคาะตามประตูบ้าน โดยเน้นบ้านที่มีโคมไฟฟักทองประดับ (เพราะมีความหมายโดยนัยว่าต้อนรับพวกเขา) พร้อมกับถามว่า "Trick or Treat?" เจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะตอบ Treat ด้วยการยอมแพ้ มอบขนมหวานให้ภูตผี(เด็ก)เหล่านั้น ราวกับว่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน หรือ เลือกตอบ Trick เพื่อท้าทายให้ภูตผีเหล่านั้นอาละวาด ซึ่งก็อาจเป็นอะไรได้ ตั้งแต่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอน ไปจนถึงขั้นทำลายข้าวของเล็กๆ น้อยๆ แล้ว อาจจบลงด้วยการ Treat เด็กๆ ด้วยขนมในที่สุด
อ่าที่นี้จะเลือกอะไรดี "Trick or Treat ? " ฮ่าฮ่าๆๆ
บรื๋ออ~
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มารู้จักแตงโมกัน,,อร่อยนะ ^*^


“แตงโม..ผลใหญ่ๆ....
เกิดขึ้นได้จากเม็ดแตง เม็ดเล็ก
จำไว้นะพวกเด็ก..จำไว้นะพวกเด็ก
เม็ดเล็กๆ..กลายเป็นแตงผลใหญ่”


ผัก ผลไม้ ล้วนแล้วแต่ได้ชื่อว่า มีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะผลไม้ แก้กระหาย ดับร้อนอย่าง.. .แตงโม


หลายคนอาจจะแปลกใจว่าแตงโมนี่นะหรือ จะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากน้อยซักแค่ไหน? ให้แค่น้ำและน้ำตาล ใช่แล้ว ! ในแตงโมกินมีน้ำและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก แต่ในความลับของแตงโมเนื้อแดงกลับมีมากกว่านั้น...


แตงโม เป็นผลไม้ในตระกูล Cucurbitaceae จัดอยู่ในกลุ่ม ไม้เลื้อย อย่างแคนตาลูป น้ำเต้า และฟักทอง มีเปลือกหนาสีเขียว โดยมีริ้วสีเหลือง หรือสีครีมเป็นแนวยาว ทั่วผล ผลแตงโมส่วนใหญ่ จะเป็นทรงกลม หรือทรงรี แต่ที่ประเทศญี่ปุ่น มีแตงโมรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งเกิดจาก การเพาะปลูกในบล็อก ที่กำหนด ทำให้เกิดแตงโม หน้าตาแปลกๆออกมา


จากหลักฐาน ซึ่งบันทึกไว้ด้วย อักษรอิยิปต์โบราณ พบว่าแตงโม เป็นผลไม้ ที่มีการเพาะปลูก มาตั้งแต่ สมัยอียิปต์โบราณ โดยจะนำมาปลูก ไว้ที่หลุมฝังศพ ของกษัตริย์อิยิปต์ องค์ต่างๆ ส่วนในแถบเอเชีย ได้รู้จักกับแตงโม เมื่อประมาณ ศตวรรษที่ 10 ซึ่งเป็นช่วงที่ ซีกโลกตะวันตก ค้นพบโลกใหม่ ทางแถบตะวันออก จึงมีการนำแตงโมเข้ามาปลูก ในประเทศจีน และแพร่หลาย ไปทั่วทั้งในทวีปยุโรป และเอเชีย
นอกจากทำหน้าที่เป็น ผลไม้คลายร้อนแล้ว แตงโมยังเป็น แหล่งอาหารที่เต็มไปด้วย วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินบี 6 วิตามินบี 1 แมกนีเซียม และโพแทสเซียม โดยในแตงโม 1 ถ้วย จะประกอบไปด้วย วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน ที่จำเป็นต่อร่างกาย ในแต่ละวันถึง 24.3% รวมทั้งวิตามินเอถึง 11.1%


ความเป็นจริงแล้ว รสหวานของน้ำแตงโมอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยอนุมูลอิสระเป็นเจ้าตัวร้ายของร่างกาย ที่เข้าไปรวมตัวกับออกซิเจน เพื่อทำลายเซลล์และเข้าไปขัดขวางการทำงาน ของหลอดเลือด รวมทั้งทำลายเยื่อบุเซลล์ ของอวัยวะต่างๆในร่างกาย ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระจะทำหน้าที่เข้าไปจับตัวกับโมเลกุล ของออกซิเจน ทำให้ออกซิเจนมีค่าความเป็นกลาง เกิดความสมดุลในการทำงานของร่างกาย


โดยในเนื้อแตงโม พบสาร lycopene ซึ่งเป็นสารแคโรทีน ชนิดหนึ่ง ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น จะพบเฉพาะในพืช ที่มีสีแดง เช่น มะเขือเทศ เชอร์รี่ แตงโม และพบว่ามีคุณสมบัติ ในการป้องกัน กระบวนการทำงาน ของอนุมูลอิสระในร่างกาย แต่สาร lycopene ในมะเขือเทศ มีข้อเสีย คือ สามารถทำงานได้ดี เมื่อผ่านกระบวนความร้อน หรือ การประกอบอาหารเท่านั้น ซึ่งสาร lycopene ในแตงโม สามารถออกฤทธิ์ได้ทันที ที่กินผลสด

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

10 อับดับน้ำหอมกลิ่นยอดนิยม


10. Lovely Sarah Jessica Parker

อ่อนหวาน แสนน่ารัก นี่คือหญิงสาวผู้เป็นแรงบันดาลใจ Lovely Sarah Jessica Parker แนะนำน้ำหอมใหม่ล่าสุด สะท้อนความคลาสสิกของแฟชั่น อมตะ ไร้กาลเวลา โดดเด่น ไม่ซ้ำแบบใคร ทันสมัยและเปี่ยมรสนิยม พราวความหอมสดชื่น จาก ส้มแมนดาริน เบอร์กาม็อต และไม้หอม Pearwood ความหอมของพัตชูลี และเย้ายวนด้วย Sensuous Cedar

- Lovely Sarah Jessica Parker Eau de parfum spray 30 ml 1800 บาท
- Lovely Sarah Jessica Parker Eau de parfum spray 50 ml 2500 บาท
- Lovely Sarah Jessica Parker Eau de parfum spray 100 ml 3300 บาท

10 อับดับน้ำหอมกลิ่นยอดนิยม


9. Burberry

พบกับความหอมตามแบบฉบับของสาวลอนดอน Burberry น้ำหอมจากอังกฤษ ด้วยกลิ่นหอมจากดอก Clementine Honeysuckle และ Rose บรรจุในขวดดีไซน์เก๋ด้วยผ้าทอลาย Check ของ Burberry มี 2 ขนาด
- 50 ml. ราคา 2600 บาท
- 100 ml. ราคา 3700 บาท

10 อับดับน้ำหอมกลิ่นยอดนิยม


8. CK one

น้ำหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง Calvin Klein ซึ่งผสมผสานไปด้วยกลิ่นของผลไม้หลากหลายชนิด อย่าง ส้ม, องุ่น, แตงโม นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมธรรมชาติจาก ขิง มิ้นท์ ดอกไม้ นานาพรรณ ดอกดาวเรือง, sun-bleached wood, vanilla, violet and guaiac wood

7. DKNY Red Delicious

ใหม่สุดจากนิวยอร์ก ความหอมเร้าใจจากความตื่นเต้นแห่งรักในเมืองใหญ่ สำหรับหญิงสาว ความเย้ายวนจากกลิ่นแชมเปญ ผสมผสานกับกลิ่นลิ้นจี่ คละเคล้ากลิ่นราสพ์เบอร์รี่ และ แอปเปิ้ลแดงสุดต้องห้าม แปรไปสู่กลิ่นกุหลาบและไวโอเล็ตชุ่มน้ำ เร้ารุมด้วยกลิ่นวานิลลา และพัทชูลี ที่มาเติมความอบอุ่นลงท้ายที่กลิ่นอำพันกับกลิ่นผิวยั่วใจ สำหรับชายหนุ่ม เป็นความลุ่มหลงและทะเยอทะยานกับกลิ่นแบบเครื่องเทศ ผสมกลิ่นสดชื่นของมะกรูดและส้มจีน กลิ่นค็อกเทลและกลิ่นกาแฟ เหล้าที่หมักด้วยแอปเปิ้ลสุดฉ่ำ ว้อดก้าและวานิลลาทรงเสน่ห์ กลิ่นดอกดาวานาที่เข้มแข็ง จบที่กลิ่นไม้หอม มอส และพัทชูลี ที่จะทอดเวลารักให้ยาวนานข้ามคืน (50ml 2200 บาท 100ml 3150 บาท men 50ml 1850 บาท 100 ml 2600 บาท) - น้ำหอม perfume Red Delicious Women by DKNY 100ML

6. J’adore eau de perfume

จากสีเหลืองทองของ J’adore eau de perfume สู่สีขาวทองของ J’adore eau de toilette ใหม่ล่าสุดจากแนวกลิ่น Fruite Floral หรือผลไม้-ดอกไม้อันอุดมเข้มข้น สู่แนวกลิ่น Fresh Floral หรือดอกไม้หอมสดชื่นอันเพริศพราย
น้ำหอมใหม่ล่าสุดจากแนวกลิ่น Fruity Floral หรือผลไม้อันอุดมเข้มข้น สู่แนวกลิ่น Fresh Floral หรือดอกไม้หอมสดชื่น ยังคงทรงเสน่ห์สุดห้ามใจต้านตั้งแต่แรกพบ ด้วยช่อดอก Peony เต็มอ้อมแขนที่หอมละมุน สู่สัมผัสแห่งความเลอเลิศ ด้วยดอก Champaca ยามพร่างพรมลงสู่ผิว จับใจไปกับความสดชื่นโดยแท้ของ White Violet หอมหวานเป็นผู้หญิง กับแนวกลิ่นเจิดจรัสของ Star Magnolia ท้ายสุด ต้องยอมจำนนต่อสัมผัสอ่อนละมุนของ Amaranth Wood, Muscat และแย้มยิ้มเคลิ้มกับกลิ่นสดชื่นของ Damson ซาบซ่าน เบาหวิว แฝงนัยให้อิ่มเอม

5.Armani code donna

จากแรงบันดาลใจของฉากตรึงตในหนังฮอลลีวู๊ด เรื่องราวของการพบกันการปรายตามอง โค้งเว้าแห่งสรีระมาเป็น Armani code donna (75 ml ราคา3200 บาท) น้ำหอมเปี่ยมเสน่ห์ในขวดเพรียวลายดอกไม้ตะวันออกกลิ่นหอมลึกลับเผยกลิ่นแท้ของความเป็นผู้หญิงในมุมมองของดีไซเนอร์ ระดับโลก จิออร์จิโอ อาร์มานี่ เริ่มต้น น้ำหอมสีน้ำเงินซฟไฟร์ด้วยกลิ่นดอกส้ม กลิ่นหอมของเกสรดอกไม้ มะลิ แซมบัคจากอินเดีย สุดแสนจะเป็นผู้หญิง และสุดโก้หรู นี่คือความหอมหวานรวยริน ผสานกลิ่นวนิลาจากมาดากัสการ์ และกลิ่นน้ำผึ้ง จนไม่มีใครลืมลง

4. POLO Black

ผู้ชายโปโลแบล็คเป็นหนุ่มชาวเมืองเต็มตัว และเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด โปโลแบล็ค เป็นน้ำหอมที่จะเผยความเซ็กซี่ ความหนุ่มแน่น เท่ และฮิพของพวกเขาออกมา” บรรจุภัณฑ์ขวดน้ำหอมโปโลแบล็คเรียบโก้ และเซ็กซี่ทำจากแก้วเนื้อดีสีดำทรงเหลี่ยมดูองอาจ เช่นเดียวกับความมาดมั่น และทรงอำนาจของหนุ่มๆ ผู้ใส่น้ำหอมกลิ่นนี้ที่ทั้งเข้มแข็ง และทันสมัยได้รับแรงบันดาลใจจากแบบขวดน้ำหอมโปโล ปรับเพิ่มฝาเงิน และขยายตราสัญลักษณ์โปโลโพนีสีเงินให้ใหญ่ขึ้น กล่องน้ำหอมสะท้อนความเซ็กซี่เช่นกัน ด้วยสีดำวาวและประดับตราสัญลักษณ์โปโลโพนีสีเงินแบบใหม่ที่เด่นมีขนาดใหญ่ขึ้น ชัดเจนและร่วมสมัย
ชุดผลิตภัณฑ์
สเปรย์น้ำหอมผสานกลิ่นไอซ์แมงโก้ ซิลเวอร์อาร์มัวซ์ และพัทชูลี่ดำ ให้ความรู้สึกทันสมัย ท้าทาย ช่ำชอง
- POLOBLACK Eau de Toilette Spray ขนาด 2.5 ออนซ์/75 มล. 2,300 บาท
- POLOBLACK Eau de Toilette Spray ขนาด 4.2 ออนซ์ /125 มล. 3,300 บาท

10 อับดับน้ำหอมกลิ่นยอดนิยม


3. Hypnose By Lancome

มนต์สะกดจากหญิงสาว
ถ้าจะมีกลิ่นน้ำหอมที่เหมือนจะสะกดผู้คนรอบข้างให้ตะลึงในความเป็นหญิง คงไม่มีหญิงสาวคนไหน ปฏิเสธได้ Hypnose จาก Lancome
น้ำหอมเปล่งประกายเจิดจรัสในขวดสีม่วงพร้อมรูปทรงโค้งเว้าหลากเหลี่ยม ให้กลิ่นชวนค้นหาของวานิลลาที่อบอุ่น เวติแวร์ที่ช่างเย้ายวน กรุ่นกลิ่นไม้หอมของตะวันออก อย่างดอกเสาวรส และหญ้าแฝก ให้ความตรึงใจด้วยความเป็นผู้หญิงของคุณ

- Hypnose Eau de Toilette 30 ml. ราคา 1800 บาท
- Hypnose Eau de Toilette 50 ml. ราคา 2500 บาท

10 อับดับน้ำหอมกลิ่นยอดนิยม


2. Tommy Hilfiger
สำหรับผู้ชายทันสมัย TRUE STAR MEN ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจ จากนักร้องชื่อดัง Enrique Iglesias ( เอ็นริเก้ อิเกลเซียส ) ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ชายร่วมสมัย เขาเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ เท่ห์ มีเสน่ห์ ดึงดูดทั้งผู้ชาย และผู้หญิงทั่วโลกด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง และสบายๆEnrique เป็นแรงบันดาลใจให้มีการสร้างสรรค์น้ำหอมที่มีกลิ่นหอมสดชื่น และมีชีวิตชีวา นอกจากนี้กลิ่นหอมต่างๆ ที่ให้ความอบอุ่นยังช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกมีอารมณ์ผ่อนคลาย น้ำหอมนี้ทำให้ผู้ชายรู้สึกนำสมัยและสบายๆ สามารถใช้ได้ทุกโอกาส TRUE STAR MEN น้ำหอมกลิ่นอ่อนๆ ของพันธุ์ไม้เครื่องเทศ (Soft-Spiced Wood) ที่ให้ความพึงพอใจชวนสัมผัส, สร้างความเย้ายวนและชวนสัมผัสตลอดเวลา ความทันสมัย และความอบอุ่นสร้างรสนิยมแบบใหม่ที่เรียบง่ายสบายๆ สัมผัสแรก Enticing Captivity Accord ด้วยกลิ่นหอมของ Citrus ผลไม้ตระกูลที่มีรสเปรี้ยว ที่มอบความสดชื่น เสริมด้วยกลิ่นของ anise (ยี่หร่า) ที่ให้ความรู้สึกเย็น ผสานด้วยกลิ่น licorice (ชะเอม) ที่ให้ความเย็นสร้างความตื่นเต้นและลุ่มลึก สัมผัสต่อมา Caressing Softness Accord กลิ่นหอมของ Orris (ดอกออริส) และ Cascarilla (คัสคาริลลา) ทำให้กลิ่นของพืชสีเขียวอันชุ่มฉ่ำกลายเป็นความสง่างาม ที่ซ่อนเร้นผสานกลิ่นหอมของ Rice (ข้าว) ให้สัมผัสที่นุ่มนวล สัมผัสท้ายสุด Seductive Addictive Accrod กลิ่นหอมที่ผสมผสานกันระหว่างหญ้าฝรั่นกับไม้เนื้ออ่อนเติมด้วยกลิ่นหอมของวนิลา ให้ความรู้สึกเย้ายวนชวนดมตลอดเวลา กลายเป็นกลิ่นหอมที่มีลักษณะเด่นไม่เหมือนใครสำหรับคุณผู้ชาย
- TRUE STAR EAU DE TOILTTE 50 ML ราคา 1,850 บาท
- TRUE STAR EAU DE TOILTTE 100 ML ราคา 2,550 บาท

10 อับดับน้ำหอมกลิ่นยอดนิยม


1. Dior Addict 2

น้ำหอมกลิ่นใหม่ที่บรรจงสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนนิยามธรรมชาติแห่งหญิง อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นคุณ โปรยเสน่ห์น้ำหอมแห่งความแรงร้ายใหม่จาก Dior Addict เผยปริศนาในธรรมชาติที่ยากหยั่งรู้ และเข้าใจในความเป็นหญิง ด้วยเสน่ห์หอมของกลิ่น Mandarin Leaf และ Silk Tree Flower ที่เป็นดั่งเสียงกระซิบแรกแห่งความสดชื่น และเผยหัวใจของ Dior addict ด้วยโทนกลิ่น Vanilla ของราชินีแห่งรัตติกาล หรือดอก Queen of the Night ดอกไม้หายากที่พบได้เพียงในประเทศจาไมก้า และเบ่งบานเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ท่ามกลางความเร้าร้อน ยั่วยวนของกลิ่น Orange Blossom ที่อบอวลแผ่ผ่านความรู้สึกให้ตราตรึง ตราบนานในความทรงจำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
- Eau de Parfume 50 ml. ราคา: 2,700 บาท
- Eau de Parfume 100 ml. ราคา: 3,750 บาท

น้ำตา


น้ำตา คือ น้ำหรือสารคัดหลั่ง ที่มีหน้าที่หล่อเลี้ยงดวงตาให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ น้ำที่หล่อเลี้ยงดวงตานี้หลั่งมาจากต่อมน้ำตา หนังตา และเยื่อบุตา ตลอดเวลาในปริมาณเล็กน้อย จนไม่สังเกตว่ามีน้ำตา แต่เมื่อเวลาที่เกิดอารมณ์ดีใจ เสียใจ หรือมีสิ่งแปลกปลอมทำให้ระคายเตืองตา จะมีน้ำหลั่งมาจากต่อมน้ำตาในปริมาณมากพอให้เห็นได้ บางครั้งอาจมีลักษณะของตาแดง บวมช้ำ ร่วมด้วย

ส่วนประกอบของน้ำตา
น้ำตาประกอบด้วยน้ำและสารต่างๆ ที่เป็นเสมือนอาหารให้เซลล์ผิวดวงตา ช่วยให้ผิวดวงตาแข็งแรง เช่น ออกซิเจน โดยปกติ กระจกตา เป็นอวัยวะที่ไม่มีเลือดมาเลี้ยงเหมือนกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ในดวงตา จึงต้องการออกซิเจนจากอากาศและน้ำตาเป็นหลัก นอกจากนี้ น้ำตา ยังมีสารอิเล็กโทรไลต์และวิตามินต่างๆ เช่นวิตามินเอ วิตามินอี มีสารต้านจุลชีพ (antimicrobial) และสารต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant) ที่จำเป็นต่อการคงสภาพที่ปกติของผิวดวงตา

ในภาวะปกติ น้ำตาสร้างมาจากต่อมน้ำตา ต่อมภายในเยื่อบุตา ต่อมบริเวณโคนขนตา ตลอดจนต่อมภายในหนังตา แต่ละต่อมสร้างน้ำตาต่างชนิดกัน โดยเรียงเป็น 3 ชั้น ชั้นนอกเป็นชั้นไขมัน ชั้นกลางเป็นน้ำ และชั้นที่ชิดผิวตาเป็นชั้นเมือก น้ำตาจะหายไปโดยการระเหยร้อยละ 20 ที่เหลือจะไหลลงท่อบริเวณหัวตาลงสู่คอและจมูก

อวัยวะสำหรับหลั่งน้ำตา
ต่อมน้ำตา อยู่ในเบ้าตาตรงมุมบนหัวตาไปถึงมุมหางตา มีท่อเล็กๆ ประมาณ 3-9 ท่อ เปิดสู่รอยพับบนเยื่อบุตา ทำให้ตาชุ่มชื้นอยู่เสมอ ช่วยชะล้างฝุ่นละออง และสิ่งแปลกปลอมที่เข้าตา
หลอดน้ำตา เป็นหลอดเล็กๆ อยู่ในเปลือกตาบนและล่าง ตรงมุมหัวตา หลอดน้ำตายาวประมาณ 10 มิลลิเมตร ทอดไปสู่ถุงน้ำตา จึงเป็นทางระบายน้ำตาด้านหน้าของลูกตาไปสู่ถุงน้ำตา
ถุงน้ำตา อยู่หลังผิวหนังบริเวณระหว่างมุมหัวตาของเปลือกตากับดั้งจมูก มีท่อยาวประมาณ 18 มิลลิเมตร กว้าง 3-4 มิลลิเมตร เปิดสู่ช่องจมูกส่วนหน้า
ในขณะร้องไห้ ต่อมน้ำตาจะหลั่งน้ำตาออกมามาก บางส่วนก็ล้นไปสู่แก้ม บางส่วนผ่านหลอดน้ำตา ถุงน้ำตา ไปตามท่อสู่โพรงจมูก น้ำตาและน้ำมูกรวมกันเป็นขี้มูกโป่ง

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2552

8 เคล็ดลับล้างหน้าให้ผิวสวยสดใส


สวัสดีค่ะเพื่อนๆและคุณผู้อ่านทุกท่านในเวลานี้อากาศก็เปลี่ยนบ่อยดังนั้นก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
มาและคะวันนี้ดิฉันจะพาไปดู 8 เคล็ดลับล้างหน้าให้ผิวสวยสดใส
กันนะคะ

1. จัดการ กับเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าของคุณมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนนะคะ ถ้าคุณแต่งหน้าเพียบ ควรเลือกแบบทำความสะอาดล้ำลึกที่เหมาะกับสภาพผิว เพื่อเช็ดล้างเครื่องสำอางออกให้หมดจด โดยเฉพาะมาสคาร่ากันน้ำ ซึ่งจะล้างออกค่อนข้างยาก อาจต้องใช้อายเมคอัพรีมูฟเวอร์ช่วยเช็ดออก หากไม่ได้แต่งหน้ามากนัก ก็อาจใช้โฟมล้างหน้าหรือสบู่ล้างออก การล้างหน้าให้สะอาดเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขน


2. ใช้น้ำอุ่นๆ ที่ไม่อุ่นจัดล้างหน้า เพื่อช่วยล้างความมันออกได้ดีขึ้น ในหน้าหนาวถึงแม้คุณจะรู้สึกสบายกับอณหภูมิของน้ำอุ่นจัด แต่ก็จะทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไปขณะล้างหน้า ส่วนในหน้าร้อนที่อากาศร้อนอยู่แล้วก็เหมาะกับการล้างหน้าในอุณหภูมิปกติ มากกว่า การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือร้อนจัดเกินไป จะทำให้เส้นเลือดฝอยแตก

3. ถ้าใช้โฟมล้างหน้า ไม่ควรทาลงบนใบหน้าโดยตรง ควรผสมน้ำก่อนเล้กน้อย แล้วถูให้เกิดฟองบนฝ่ามือก่อน ค่อยนวดวนบนใบหน้าให้ทั่วด้วยปลายนิ้ว สำหรับบริเวณทีโซน หรือ สิวเสี้ยน ควรจะนวด วนซ้ำเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องขัดถูแรงเกินไป

4. ระยะเวลาที่ลูบไล้ฟองครีมบนใบหน้า ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ถ้ารีบร้อนเกินไปก็จะทำความสะอาดไม่ทั่วถึงและขจัดไขมันฝุ่นละออง และสิ่งอุดตันไม่หมดจด ถ้านานเกินไปก็อาจทำให้ผิวแห้งตึงได้ สาวผิวแพ้ง่ายก็ควรระวังเรื่องนี้ด้วย สังเกตุดูว่าล้างความมันออกได้หมดจดทั่วใบหน้า หรือรู้สึกแห้งตึงเกินไปหรือเปล่า

5. ควรล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้งต่อวัน ยกเว้นในวันที่คุณผจญควันรถหรือวันที่มีเหงื่อออกมามาก ระหว่างวันแถมใบหน้ามันจัด หรือในวันเล่นกีฬา สาวผิวมันมักกังวลกับความมันบนใบหน้าและสิว จึงอดล้างหน้าบ่อยไม่ได้ แต่ว่าการล้างหน้ามากเกินไปในวันปกติจะยิ่งเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงาน หนักขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น

6. ถ้าหากคุณไว้ผมยาว ควรจะรวบหรือคาดผม หรือจะใส่หมวกอาบน้ำคลุมผมให้เรียบร้อยก่อนล้างหน้า เพื่อช่วยให้การล้างหน้านั้นสะอาดทั่วทั้งใบหน้า เวลาผมปรกหน้าอยู่อาจทำให้การล้างหน้าได้ไม่หมดจดทั่วถึง

7. การหลับโดยยังไม่ได้ชำระล้างเครื่องสำอางออกหมดจด จะทำให้รูขุมขนอุดตันและผิวขาดความสดใส

8. หลังจากล้างหน้าสะอาดหมดจดดีแล้ว ไม่ควรปล่อยให้ใบหน้าแห้งไปเอง ควรซับเบาๆ ด้วยผ้าขนหนูแห้งสะอาดเนื้อนุ่ม


อ่ารู้อย่างนี้แล้วสาวๆๆหลายคนอยากหน้าใสลองทำดูนะคะและตัวดิฉันเองก็จะขอลองบ้าง
โฮ๊ะๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

อวัยวะสารพัดประโยชน์ อ่านสิค่ะฮาดีคลายเครียดได้นะจ๊ะ ^__^,,

หน้าผาก = อวัยวะที่ใช้ประกอบกับเท้าเวลามีทุกข์ เช่นนอนเอาเท้าก่ายหน้าผาก
ผม = เรียกอีกอย่างว่า "ขนหัว" ใช้แสดงอาการตกใจมากๆ เช่น ขนหัวลุก
ตา = อวัยวะที่ใช้ในการมอง จะมีอุณหภูมิสูงมากเมื่อเห็นใครได้ดี
หู = อวัยวะที่ใช้ในการฟัง ส่วนมากจะมีน้ำหนักเบา จึงก่อให้เกิดเรื่องขึ้นบ่อยๆ
ปาก = อวัยวะที่ใช้พูด ส่วนมากจะอยู่ไม่ตรงกับใจ
คอ = อวัยวะที่เชื่อมระหว่างตัวและหัว เป็นอวัยวะที่คอยหันหาคนอื่น
ก้านคอ = อวัยวะที่คอยรับแข้งคนอื่น
ไหล่ = อวัยวะที่คู่กับบ่า เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ มีไว้ให้คนเหงาใจหรือเศร้าใจซบโดยเฉพาะ
บ่า = อวัยวะที่คู่กับไหล่ เช่นเคียงบ่าเคียงไหล่ อาชีพจับกังมีไว้แบกข้าวสาร (ส่วนถนนข้าวสาร จับกังไม่เกี่ยว)
หัวใจ = อวัยวะสูบฉีดเลือดและฟอกเลือดให้กับร่างกาย มีไว้ให้แสดงความรักและเก็บรักไว้
ปอด = อวัยวะที่รับอากาศมาส่งหัวใจ บางครั้งใช้แสดงระดับความกล้าหาญ
หน้าอก = อวัยวะที่รองรับเรื่องหนัก อาทิเรื่องหนักอก ซึ่งผู้หญิงจะหนักกว่าผู้ชาย
นม = อวัยวะที่บ่งบอกภาระการรับน้ำหนักของอก ผู้หญิงมีไว้บริการนมให้บุตร ผู้ชายถึงมีก็ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ก็ไขว่คว้าอยากได้มาเชยชม...
ศอก = ข้อต่อระหว่างแขนและข้อมือ มีไว้เป็นอาวุธประจำกาย และรองน้ำ สำหรับบรรดาภรรยาน้อย ไม่เป็นทีแนะนำสำหรับสาวๆ มันอันตราย
มือ = เป็นอวัยวะปลายสุดของแขน มีนิ้วเป็นส่วนประกอบ นิยมใช้เงินยกเห็นกันมากในสภา
กำปั้น = เป็นอวัยวะชิ้นเดียวกับมือ แต่เปลี่ยนรูปเป็นอาวุธ นิยมใช้ตัดสินปัญหา ในกรณีที่ไม่ได้ใช้สมองแก้ปัญหา
ตัว = เป็นชิ้นส่วนใหญ่ของร่างกายให้อวัยวะอื่นได้พักพิง จะลืมกันมากเวลาได้ดี
สะดือ = เป็นอวัยวะที่ใช้เชื่อมต่อกับแม่ยามอยู่ในครรภ์ เมื่อโตขึ้นใช้วัดระดับความสุภาพ ถ้าต่ำกว่านี้ทะลึ่ง!!
ขาอ่อน = เป็นอวัยวะเชื่อมต่อจากสะโพกลงมา นิยมใช้ในการประกวด เพราะเห็นได้เด่นชัดกว่าสมอง
หัวเข่า = ข้อต่อระหว่างขาและหน้าแข้ง เป็นอาวุธประจำกาย ผู้หญิงใช้โจมตี .จุดอ่อนผู้ชาย และบางคนใช้ซับน้ำตาเวลาเศร้า นิยมมากสำหรับคนหลงรักชาวบ้าน
แข้ง = อวัยวะที่ถัดมาจากเข่า นิยมใช้พาดก้านคอ...
น่อง = อวัยวะที่อยู่ด้านหลังของแข้ง ใช้วัดระดับความแข็งแรงของขา และวัดความกร้านชีวิต
ขนหน้าแข้ง = อวัยวะที่วัดระดับของฐานะ ยิ่งรวยมากขนหน้าแข้งจะร่วงน้อย
เท้า = เป็นอวัยวะที่ใช้ยืน บางครั้งใช้ก่ายหน้าผาก หรือเป็นอวัยวะที่ใช้ผลัก ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่า "ยัน"

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เกร็ดความรู้......อยากรู้มาอ่านจิๆๆ

อ่ะคะวันนี้ดิฉันจะมานำเสนอเรื่องสุขภาพเกี่ยวกับการออกกำลังกายนะคะ^^

หลักในการออกกำลังกาย
- ควรออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ขา ลำตัว

- ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน

- ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง วันละ 20-30 นาที

- ควรออกกำลังกายให้มีอัตราส่วน การเต้นของหัวใจประมาณ 90-110 ครั้ง/นาที

- ก่อนออกกำลังกาย ควรอบอุ่นร่างกาย และควรผ่อนร่างกายให้เย็นลง เมื่อสิ้นสุดการออกกำลังกาย

เวลาที่ควรออกกำลังกาย
- ก่อนอาหาร

- ถ้าหลังอาหาร ควรเว้นระยะห่าง 2 ชั่วโมง

- เวลาแล้วแต่ว่างหรือชอบ ถ้าออกกำลังกายกลางคืน ควรพัก 1 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน

- ควรออกกำลังกายเวลาเดียวกัน เช่น ทุกเช้า ทุกเย็น หรือทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ หรือวันอังคาร พฤหัสบดี เสาร์

ข้อควรระวังในการออกกำลังกาย

1.ไม่ควรออกกำลังกาย ที่ต้องออกแรงเกร็ง หรือเบ่ง เช่น การยกน้ำหนัก กระโดด หรือวิ่งด้วยความเร็วสูง

2. ไม่ควรออกกำลังกาย ที่ต้องออกแรงกระแทก โดยเฉพาะข้อเข่า เช่น การกระโดด การขึ้นลงบันไดสูงมากๆ หรือการนั่งยองๆ

ไม่ควรบริหารร่างกาย ในท่าที่ใช้ความเร็วสูง หรือเปลี่ยนทิศทางในการฝึกอย่างฉับพลัน หรือเดินทางลาด ทางลื่น

3. ไม่ควรออกกำลังกาย ในที่ที่มีอากาศร้อนอบอ้าว หรือแดดจัด จะทำให้ร่างกายเสียน้ำ และเกลือแร่มาก

4. ไม่ควรออกกำลังกาย ในขณะที่ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย หรือไม่สบาย

รูปแบบของการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

จะต้องเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับอายุ โดยกิจกรรมนั้น จะต้องใช้กล้ามเนื้อของร่างกาย ให้ออกแรงติดต่อกันเป็นระยะเวลานานพอ จึงจะมีผลต่อการเสริมสร้างความอดทนของปอด หัวใจ และระบบไหลเวียนเลือด ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนักของการออกกำลังกาย ตัวอย่างเช่น

- เดินเร็ว อย่างน้อยวันละ 30 นาที

- วิ่งเหยาะ อย่างน้อยวันละ 20 นาที

- ถีบจักรยาน อย่างน้อยวันละ 30 นาที

- กระโดดเชือก อย่างน้อยวันละ 10 นาที

- เต้นแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 15 นาที

วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แล้วไฉน??? ดอกทิวลิปจากตุรกีจึงเดินทางไปแพร่หลายจนกลายเป็นดอก ไม้สัญลักษณ์แห่งเนเธอร์แลนด์ได้





อ่ามาแล้วจ้าขออภัยเมื่อวานว่าจะอัพติดธุระนิดหน่อยนะจ๊ะไงวันนี้เรามาดูกันต่อเรยนะจ๊ะ
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปประมาณปี ค.ศ. 1600 ดอกทิวลิปถูกนำมาปลูกในแปลงส่วนตัวเล็กๆบริเวณทะเลเห นือ และอัมสเตอร์ดัม ที่เมืองไลเดน (LEIDEN) และฮาร์เลม (HARRLEM) ซึ่งบริเวณนี้ยังคงเรียกว่า "Bollenstreek" หรือบริเวณปลูกดอกทิวลิป

สำหรับการปลูกดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ในตอนแรก ต้องบอกว่าเป็นดอกไม้สำหรับคนรวยเท่านั้น พวกคนรวยชาวดัชท์และพวกผู้ดีชาวยุโรป หรือพวกเศรษฐีใหม่ที่ทำการค้าขายเท่านั้นที่จะมีดอกท ิวลิปไว้ปลูกประดับบ้าน การปลูกทิวลิปเป็นที่นิยมในเนเธอร์แลนด์มากขึ้นเรื่อ ยๆ ถึงขั้นที่ว่าในปี ค.ศ. 1624 เกิดวิกฤติการณ์ที่เรียกว่า“คลั่งทิวลิป” หรือ Tulipomania กันเลยทีเดียว ทำให้ราคาซื้อขายหน่อทิวลิปหน่อหนึ่งมีราคามหาศาล ว่ากันว่ามีราคาแพงกว่าทองคำเสียอีก


มาถึงวันนี้ แม้ว่าราคาของดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ จะไม่ได้แพงมากมายเหมือนเมื่ออดีต แต่ดอกทิวลิปก็ถือว่าเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญและสร้ างรายได้ให้แก่ประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่น้อย นอกจากนี้แหล่งปลูกดอกทิวลิปยังกลายมาเป็นสถานที่ท่อ งเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกจำนวนมากให้เดินทางไ ปชื่นชมและสัมผัสในความงามของดอกไม้อันขึ้นชื่อชนิดน ี้ โดยเฉพาะที่ สวน"Keukenhof" ที่ถือว่าเป็นสุดยอดแห่งจุดชมดอกทิวลิปดังที่กล่าวมา ในข้างต้น

อนึ่งสวน Keukenhof จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเที่ยวชมภายในสว นได้แค่ปีละครั้งเท่านั้น โดยจะเปิดในช่วงฤดูใบไม้ผลิเพียงแค่ 2 เดือน (ประมาณเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจ กับดอกทิวลิปนับล้านๆ ดอกหลากหลายพันธุ์ และหลากหลายสีสัน รวมไปถึงยังมีไม้หัวอื่นๆ อย่าง ลิลลี่ แดฟโฟดิล หรือนาซิสซัส ไฮยาซินธ์ จัดแสดงให้ชมอยู่ภายในสวนด้วย

เมื่ออดีตสวน Keukenhof แห่งนี้เป็นเพียงสวนครัวของปราสาท Slot Teylingen ของ Jacoba van Beieren ภรรยาของท่านเคานท์ (Keukenhof แปลว่า สวนครัว) แต่ต่อมาในปี 1949 นายกเทศมนตรีของเมืองลิซเซ่ ได้ร่วมกับสมาคมผู้ส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประเภทไม้หั ว ได้เกิดแนวคิดที่จะมีงานแสดงไม้ดอกประจำปีแบบกลางแจ้ ง โดยทำการจัดให้เหมือนกับการได้ชมสวนจริงๆ และก็ได้เลือกเคอเคนฮอฟแห่งนี้เป็นที่จัดแสดง โดยมีการส่งเสริมการปลูกไม้หัวพันธุ์ใหม่ๆ ทำการแบ่งพื้นที่ภายในสวนที่ให้กับบริษัทผู้ผลิตไม้ห ัวเป็นผู้ปลูกและเข้าบำรุงรักษา จนทำให้เกิดทิวลิปพันธุ์ใหม่ๆขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังทำการจัดแสดงไว้เป็นสวนสวยๆ ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ท่านๆ ต้องข้ามน้ำ ข้ามฟ้าเดินทางไกล เพื่อมาชมทิวลิปสวยๆ กันถึงที่เนเธอร์แลนด์

อ้อ!! เกือบลืมไป อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนสวนแห่งนี้ก็ค ือ ต้องไปที่ Keukenhofmolen เป็นกังหันลมขนาดใหญ่ อีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะตั้งอยู่ภายในสวนเพียงตัวเดียว จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปด้านบนได้ ซึ่งเมื่ออยู่บนกังหันลมนั้นจะได้เห็นวิวทิวทัศน์โดย รอบจากมุมสูง เป็นภาพที่สวยงาม ยามเมื่อได้เห็นดอกทิวลิปและดอกไม้อื่นๆ อีกนานาพันธุ์เบ่งบานแย่งกันอวดความงามในสวนสวยๆ

อ่าที่นี้เพื่อนๆๆคงรู้กันแล้วอยากไปเที่ยวเนเธอร์แลนด์กันบ้างรึป่าวน๊าถ้าอยากไปตั้งใจเรียนกันนะคะจะได้สอบชิงทุนได้ฮ่าฮ่าๆๆ

ไฟติ้งคร๊า

วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552

"เนเธอร์แลนด์"...แดน"ทิวลิป"บันลือโลก

เมื่อพูดถึง"เนเธอร์แลนด์"หรือที่มักเรียกกันว่า "ฮอลแลนด์" หลายคนคงรู้จักประเทศนี้ในนามดินแดนแห่ง "กังหันลม รองเท้าไม้ และดอกทิวลิป” ซึ่งทั้ง 3 สิ่งนี้ เป็นเสมือนดังสัญลักษณ์ประจำชาติที่ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางไปท่องเที่ยวในเนเธอร์แลนด์โดยเฉพาะเจ้าดอกทิวลิปนี่




สำหรับคนไทยแล้ว ถือเป็นดอกไม้ที่มีคนชื่นชอบกันไม่น้อยเลย เรื่องนี้ดูได้จากงานมหกรรมพืชสวนโลกที่ผ่านมาเมื่อป ลายปี 49 ต่อต้นปี 50 ซึ่งแปลงทิวลิปจากแดนกังหันลมนั้นมีคนไปยืนรอต่อคิวถ่ายรูปคู่กันเป็นจำนวนมากเกือบแทบทุกวัน




แต่การได้ชมทิวลิปในงานพืชสวนโลกยังไงมันก็ไม่สะใจ สมใจ เท่ากับการได้ไปชมดอกทิวลิตัวจริงเสียงจริง จากดินแดนแห่งดอกทิวลิปอย่างเนเธอร์แลนด์ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันกำลังพูดถึงนี้ เป็นหนึ่งในจุดชมดอกทิวลิปอันสวยงามและขึ้นชื่อแห่งดินแดนกังหัน นั่นก็คือ สวน "Keukenhof" (เคอเคนฮอฟ) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ชื่อลิซเซ่ (Lisse) ที่อยู่ห่างจากอัมสเตอร์ดัมไปไม่ไกล






สวนแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวนดอกไม้ที่มีความสวยงามที ่สุดในเนเธอร์แลนด์ หรือถ้าจะพูดตามความคิดที่นิยมชมชอบในดอกทิวลิปเป็นอย่างมาก ก็อาจจะกล่าวได้ว่า Keukenhof เป็นสวนดอกไม้ที่สวยที่สุดในโลกก็ว่าได้แต่ก่อนที่จะไปรู้จักกับสวนแห่งนี้ เรามาทำความรู้จักกับดอกทิวลิปให้มากกว่านี้กันสักหน่อยดีไหม






หลายคนอาจจะคิดว่าดอกลิวทิปนี้คงจะมีต้นกำเนิดมาจากป ระเทศเนเธอร์แลนด์นี้เป็นแน่ แต่อันที่จริงแล้วทิวลิปนี้ มีต้นกำเนิดมาจากแถบอาร์มาเนีย เปอร์เชีย และคอเคซัส(Armania, Persia, Caucasus) แล้วก็ได้แพร่ไปสู่ชายฝั่งทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเ นียน และ ชาวตุรกีก็เป็นชาติแรกที่เห็น ที่เห็นคุณค่าของดอกทิวลิปแ ละนำมาปลูกกันอย่างแพร่หลายคำว่า "ทิวลิป" หรือ Tulip นี้มีที่มาจากชื่อที่เรียกผ้าโพกศีรษะของชาวสลาฟ (คือชนชาวรัสเซียน,บัลกาเรียน, โบฮีเมียน และชาวโพล) เพราะด้วยรูปร่างของดอกทิวลิป มีความละม้ายคล้ายกับรูปทรงผ้าโพกศีรษะของชาวตุรกี ซึ่งชาวตุรกีเรียกผ้าโพกศีรษะนี้ว่า tulbend





อ่าที่นี่คุณอยากรู้รึป่าวว่ามาอยู่ในเนเธอร์แลนด์ได้ยังไง อ่าถ้าอยากรู้พรุ่งนี้มาดูกันค่ะ ,,^_______^

เหตุใดก่อนฝนตกจึงร้อนอบอ้าว?

ก่อนฝนตก เป็นระยะของการตั้งเค้าฝน มีการแปรปรวนทางพลังงาน ความร้อน เพราะการเปลี่ยนสถานะของสสารอย่างหนึ่งนั้น จำเป็นต้องคายหรือใช้ความร้อน การที่เมฆจะกลายเป็นหยาดฝนจะคายความร้อนออกมามาก เมื่อความร้อนนั้นแผ่มาถึงพื้น ความร้อนจะกระจายกลับขึ้นไปอีก ปะทะเข้ากับเมฆข้างบนอีก ไหนเมฆจะคายความร้อนออกมามาก ไหนความร้อนจะคั่งระหว่างเมฆกับพื้นดิน จึงทำให้ความอบอ้าวเพิ่มขึ้นมากมาย และจะเป็นทำนอง

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ร้อนนี้เลือกกินไอศครีมตามกรุ๊ปเลือด

อากาศร้อนๆ อย่างนี้ ไอศครีมกลายเป็นอาหารยอดนิยมอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า หากเลือกไอศกรีมตามหลักวิชาการแล้วล่ะก็ นอกจากอร่อยคลายร้อนแล้วยังได้สุขภาพด้วย

หนังสือ Eat Right For Your Type ของ ดร.เจ.ดี อดาโม คือหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องของตำราการรับประทานอาหารให้ตรงกับกรุ๊ปเลือด โดยให้ความรู้ว่า หากเรารู้จักตนเองและเลือกรับประทานอาหารให้สอดคล้องกับกรุ๊ปเลือดของตนเองแล้วนั้น นอกจากจะได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังส่งผลให้รูปร่างดีและอายุยืนอีกด้วย


กรุ๊ปเลือดเอ - สำหรับคนที่มีเลือดกรุ๊ปเอ จะมีเลือดค่อนข้างเหนียวข้น และกระเพาะอาหารของคนกลุ่มนี้จะมีกรดต่ำว่าเลือดกรุ๊ปอื่นๆ ดังนั้น ไอศกรีมโดยทั่วไปที่ทำมาจากนมวัวนั้น ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนกลุ่มนี้ เพราะไขมันในนมวัวจะไปช่วยเพิ่มความเข้มข้นของเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนช้า ส่งผลให้หัวใจจะทำงานหนักมากขึ้น ดังนั้น หากจะเลือกรับประทานไอศกรีมให้เหมาะที่สุดคือ ไอศกรีมที่ทำมาจากนมถั่วเหลือง รสชาติไอศกรีมที่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปเอมากที่สุด ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่างๆ เช่น สตรอเบอรี่ ราสพ์เบอรี่ บลูเบอรี่ เรดเบอรี่ ช็อกโกแลต ลูกพลัม ลูกพรุน มะเดื่อ กระท้อน สับปะรด เป็นต้น แต่ที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ไอศกรีมรสมะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม แคนตาลูป มะพร้าว วนิลา เพราะจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะ และเป็นตัวการขัดขวางการดูดซึมของวิตามิน


กรุ๊ปเลือดบี - เลือดกรุ๊ปนี้โชคดีกว่าใคร เพราะเป็นกลุ่มเลือดที่มีความสมดุล ไม่ข้นหรือเหลวจนเกินไป นมจึงไม่มีผลต่อร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปนี้ รสชาติ ไอศกรีมที่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปบีมากที่สุด ได้แก่ ส้ม กล้วย แคนเบอรี่ องุ่น ทุเรียน สับปะรด กระท้อน ช็อกโกแลต วนิลา สตรอเบอรี่ ชาเขียว และเป๊ปเปอร์มินต์ เพราะมีไฟเบอร์และเอนไซม์สูง ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ไอศกรีมรสมะพร้าว มะเฟือง ทับทิม ข้าวโพด และกะทิ เพราะเป็นตัวการที่ทำให้น้ำหนักขึ้นได้ง่ายกว่าอาหารอย่างอื่น


กรุ๊ปเลือดโอ - คนเลือดกรุ๊ปโอส่วนใหญ่จะมีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า นอกจากนี้ยังมีปัญหาระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบดูดซึมในร่างกาย จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเพราะเหตุใดคนเลือด กรุ๊ปนี้ถึงอ้วนง่ายกว่าคนปกติ จึงควร งด ไอศกรีมที่ทำจาก นมวัวทุกประเภท แล้วหันมารับประทานไอศกรีมที่ทำจากผลไม้หรือนมถั่วเหลืองแทนจะดีที่สุดรสชาติไอศกรีมที่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปโอมากที่สุดคือ ไอศกรีมที่ทำมาจากผลไม้สีแดงเข้มหรือสีม่วง ได้แก่ ลูกพรุน ลูกพลัม มะเดื่อ แบล็กเชอรี่ ช็อกโกแลต สตรอเบอรี่ เป๊ปเปอร์มินต์ สับปะรด แต่ที่ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาดคือ ไอศกรีมรสกาแฟ ส้ม วนิลา เกรปฟรุต สตรอเบอรี่ มะพร้าว แคนตาลูป เพราะหากทานเข้าไปจะไปเพิ่มปริมาณกรดในกระเพาะอาหาร กรุ๊ปเลือดเอบี -


เลือดกรุ๊ปเอบีเป็นพวกลูกผสม ลักษณะอาหารการกินจึงคล้ายกับทั้งคนเลือดกรุ๊ปเอและบี แต่สามารถรับประทานนมได้ เพราะคนในกรุ๊ปนี้จะมีระบบการย่อยที่ซับซ้อนกว่ารสชาติไอศกรีมที่เหมาะกับคนเลือดกรุ๊ปเอบีมากที่สุดคือ องุ่น กีวี เชอรี่ แคนเบอรี่ มะเดื่อ สับปะรด ทุเรียน กระท้อน ชาเขียว ช็อกโกแลต สตรอเบอรี่ วนิลา แต่ที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ไอศกรีมที่ทำจากผลไม้เมืองร้อนทั้งหลาย อาทิ มะม่วง มะพร้าว กล้วย ฝรั่ง เพราะจะย่อยยาก สำหรับรสส้มนั้นจะทำให้กระเพาะระคายเคือง แต่น่าแปลกใจที่ไอศกรีมรสมะนาวกลับช่วยย่อยและล้างระบบลำไส้ได้ดีเลยทีเดียว


อ่าค่ะทีนี้ทุกคนคงทราบแล้วว่าไอศครีมรสใดเหมาะกับคุณขอให้ทานให้อร่อยนะคะ ^^*

Bon appétit !

^^

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันเกิด หรือ วันคล้ายวันเกิด ต่างกันป่าวนะ ??




วันเกิด หรือ วันคล้ายวันเกิด คือ วันที่ถือว่าเป็นวันที่คน ๆ หนึ่ง เกิด มาแล้วมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เป็นวันแรก โดยเมื่อวันเกิดของคน ๆ หนึ่ง เวียนมาครบรอบปี จะเรียกวันนั้นว่าเป็น วันคล้ายวันเกิด ในหลายวัฒนธรรมจะมีการฉลองวันเกิดในวันนั้น หนึ่งในรูปแบบการฉลองงานวันเกิดที่เป็นที่นิยมที่สุดคือการเป่าเทียนบนเค้กวันเกิด โดยที่บนเค้กวันเกิดจะมีการปักเทียน จากนั้นเพื่อนร่วมงานวันเกิดจะร้องเพลงวันเกิด เมื่อเพลงจบแล้วให้เจ้าของวันเกิดอธิษฐานสิ่งที่ตนหวังไว้แล้วเป่าเทียน จากนั้นก็จะมีการทานเค้ก หรือมีการมอบของขวัญ หรืออื่น ๆ ตามแต่ผู้จัด

เพลงที่ใช้ในวันเกิด
เพลง ที่นิยมใช้ในวันเกิดที่แพร่หลายมากคือเพลง "Happy Birthday to you" ซึ่ง กินเนสบุก ได้ระบุว่าเป็นเพลง ภาษาอังกฤษ ที่มีการร้องบ่อยที่สุดในโลก แต่งทำนองโดย แพ็ตตี้ ฮิลล์ และ มิลเดร็ด ฮิลล์ ในปี พ.ศ. 2436 โดยเริ่มแรก สองพี่น้องซึ่งเป็นครูสอนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ตั้งใจใช้สำหรับทักทายนักเรียนในชั้นโดยใส่ประโยคว่า "Good Morning to All" (อรุณสวัสดิ์ทุกคน) สำหรับเพลงรูปแบบที่เรารู้จักกันนั้นได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ในปี พ.ศ. 2478 โดยบริษัทซัมมี (Summy Company) และมีกำหนดที่จะหมดอายุในปี พ.ศ. 2578


ในปี พ.ศ. 2533 วอร์เนอร์มิวสิก ได้ซื้อบริษัทที่ครอบครองลิขสิทธิ์เพลงนี้ในราคา 15 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ โดยตีมูลค่าลิขสิทธิ์เพลงนี้ถึง 5 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่สถานะของลิขสิทธิ์นี้ในปัจจุบันไม่ชัดเจนนัก วอร์เนอร์ระบุว่าการแสดงเพลงนี้ในที่สาธารณะถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์


เนื้อร้องปัจจุบันที่ใช้คำว่า "Happy Birthday" นั้นไม่ทราบว่าผู้ที่ริเริ่มเป็นใคร เนื้อร้องของเพลงสามารถดูได้ที่ เว็บไซต์ของวอร์เนอร์มิวสิก

เพลงที่ใช้อวยพรวันเกิดในรูปแบบภาษาไทยก็มีเช่นกัน โดยเนื้อร้องมีดังนี้
"ให้โชคดีสุขศรีวันเกิด
สิ่งประเสริฐใดหวังตั้งใจ
ให้สุขสมดังฝันใฝ่
จิตแจ่มใสทุกวันทุกคืน
ให้มั่งมีเงินทองยศศักดิ์
ให้คนรักมากมีดาษดื่น
ทำสิ่งใดให้ลุล่วงราบรื่น
อายุยืนปลอดโรคปลอดภัย"

และยังมีเพลงที่หน่วยงานด้านวัฒนธรรมของไทยได้แต่งไว้ด้วย (ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2544) แต่เนื่องจากการขาดการประชาสัมพันธ์ประกอบกับเพลง Happy Birthday to you จำง่ายและติดปากคนไทยมากกว่า ทำให้บทเพลงนี้เงียบหายไป เนื้อร้องมีดังนี้
"ให้สุขสันต์วันเกิดวันนี้
ให้สุขีวันเกิดเกริกไกร
ให้สุขสมวันเกิดตลอดไป
ให้สุขใจวันเกิดตลอดกาล"

อ่ะค่ะหลายคนอาจไม่ทราบหรือทราบแล้วดิฉันก็ขอให้มีความสุขทุกคนนะคะ ^^
HAPPY HAPPY !!
BON ANNIVERSAIRE !!! ><

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ประเทศออสเตรีย

ประเทศออสเตรีย หรือ สาธารณรัฐออสเตรีย (Republic of Austria) (ภาษาเยอรมัน: Österreich, ภาษาโครเอเชีย: Austrija, ภาษาฮังการี: Ausztria, ภาษาสโลวีเนีย: Avstrija) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในยุโรปกลาง มีอาณาเขตทางเหนือจรดประเทศเยอรมนีและสาธารณรัฐเช็ก ทางตะวันออกจรดสโลวาเกียและฮังการี ทางใต้จรดสโลวีเนียและอิตาลี และทางตะวันตกจรดสวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์ มีการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบมีตัวแทนภายใต้หลักการของรัฐสภา


ภูมิศาสตร์


ประเทศออสเตรียในปัจจุบัน ตามแผนที่ประเทศออสเตรียมีความกว้างจากทิศตะวันออกจรดทิศตะวันตกมากกว่า 575 กิโลเมตร มีความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้มากกว่า 294 กิโลเมตร
ประมาณ 60% ของสภาพภูมิประเทศของประเทศออสเตรียมีลักษณะเป็นภูเขาและเนินเขา ซึ่งได้รับการขานนามให้เป็น "ดินแดนแห่งขุนเขา" ประเทศออสเตรียมีการพาดผ่านของเส้นทาง "แม่น้ำดานูบ (Donau)" โดยผ่านรัฐโลว์เออร์ออสเตรีย หรือ นีเดอเริสเทอร์ไรค์ (Lower Austria; Niederösterreich) และ รัฐอัปเปอร์ออสเตรีย หรือ โอเบอเริสเทอร์ไรค์ (Upper Austria; Oberösterreich) เพื่อไหลต่อไปยังสาธารณรัฐเช็ก (Czech Republic) ภูมิประเทศของประเทศออสเตรียแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะคือ
ภูเขา (berge)
ภูเขาสูงในประเทศออสเตรียมีความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 3,000 เมตร ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศออสเตรียตั้งอยู่ทางเทือกเขาด้านตะวันออก (Ostalpen) ด้วยความสูง 3,798 เมตร มีชื่อว่า โกรสซ์กล็อกเนอร์ (Großglockner) ยอดเขาที่สูงรองลงมาคือ ไวล์ดชะปิทซ์ (Wildspitze) ด้วยความสูง 3,774 เมตร และยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่สามของประเทศออสเตรยคือ ไวสซ์กูเกิล (Weißkugel) ด้วยความสูง 3,738 เมตร ด้วยลักษณะของภูเขาเป็นจุดสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาฤดูหนาว (Wintersport) ยกตัวอย่างเช่น สกี สโนว์บอร์ด เป็นต้น ส่วนในฤดูร้อน ก็ยังสามารถที่จะท่องเที่ยวชื่นชมสภาพป่า และการปีนเขา อีกด้วย
ทะเลสาบ (Seen)
ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรียมีชื่อว่า นอยซิดเลอร์ ซี (Neusiedler See) โดยมีพื้นที่ประมาณ 77% หรือประมาณ 315 ตารางกิโลเมตร อยู่ที่รัฐบูร์เกนลันด์ (Burgenland) ส่วนพื้นที่อีกประมาณ 33% ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของประเทศฮังการี และยังมีทะเลสาบอื่นๆ ที่มีความสำคัญคือ อาทเทอร์ซี (Attersee) ด้วยพื้นที่ประมาณ 46 ตารางกิโลเมตร และ ทรอนซี (Traunsee) อยู่ในพื้นที่รัฐ โอเบอเริสเทอร์ไรค์ (Upper Austria; Oberösterreich) และทะเลสาบอื่นๆ อีกมากมายที่มีความสำคัญมากสำหรับดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน เช่น โบเดนซี (Bodensee) , ซาล์ซคามเมอร์กูทส์ (Salzkammerguts) , โวทเฮอร์ซี (Wörthersee) , มิลล์ชะเททเทอร์ ซี (Millstätter See) , ออสเซียเชอร์ ซี (Ossiacher See) , ไวส์เซ่นซี (Weißensee) , โมนด์ซี (Mondsee) , โวล์ฟกังซี (Wolfgangsee) เป็นต้น
แม่น้ำ (Flüsse)


เศรษฐกิจ

เป็นแบบเสรีนิยมผสมสังคมนิยม โดยรัฐมีบทบาทในอุตสาหกรรม และวิสาหกิจหลัก เช่น อุตสาหกรรมขั้นปฐม การผลิตกระแสไฟฟ้า ธนาคาร และกิจการสาธารณูปโภค สาเหตุที่รัฐได้เข้ามาจัดการบริหารแบบรวมศูนย์ ก็เพื่อป้องกันการครอบครองจากโซเวียตภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกระทั่งในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 ออสเตรียจึงเริ่มแปรรูปรัฐวิสาหกิจ และได้พัฒนาเศรษฐกิจแบบตลาดได้สำเร็จ ซึ่งทำให้ประชาชนมีมาตรฐานความเป็นอยู่สูง รัฐบาลชุดที่ผ่านมา ซึ่งเป็นพรรคขวา ได้มีแผนที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจการของรัฐเพิ่มเติม อันจะทำให้รัฐบาลออสเตรียมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจลดลง และในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้างแบบ Social Partnership ในช่วงทศวรรษที่ 60 และ 70 ได้ลดน้อยลงตามเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่เปลี่ยนไป รัฐบาลชุดปัจจุบันซึ่งนำโดยพรรคฝ่ายซ้ายสังคมนิยมจึงมีนโยบายชะลอการแปรรูปรัฐวิสาหกิจลง และเป็นที่คาดว่า จะมีนโนบายที่ทำให้ความสัมพันธ์ของนายจ้างและลูกจ้างในภาคอุตสาหกรรมเป็นไปแบบ Social Partnership ต่อไป