ตั่งแต่เดือนมิถุนายน 2549 การสอบ TOEFL หรือ The Test of English as a Foreign Language ได้เปลี่ยนแปลงไป ทั้งรูปแบบการสอบ การคิดคะแนน และวิธีการสอบ ทำให้เด็กไทยที่คิดจะสอบ TOEFL หนาวๆ ร้อนๆ ไปตามๆ กัน ด้วยข่าวลือที่ว่าการสอบยากขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะการสอบแบบเดิมก็สุดหินสำหรับบางคนแล้ว ดังนั้น ไปตรวจสอบกันเลยว่าการสอบระบบใหม่ยากเกินจริงหรือไม่ TOEFL (Test of English as a Foreign Language)คือ แบบทดสอบความสามารถเพื่อประเมินความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ ในการใช้ภาษาอังกฤษ ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาประจำชาติ โดยเป็นการสอบแบบมาตรฐาน ที่วัดความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติ ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อกับสถาบันการศึกษาในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางของการเรียนการสอนโดยมีจัดการ สอบเป็นแบบปรนัย เพื่อวัดความเข้าใจ ภาษาอังกฤษ (แบบอเมริกา)
การสอบ TOEFLในอดีตประกอบด้วย 2 แบบ คือ การสอบแบบที่ใช้กระดาษในการทำข้อสอบ (Paper - Based Testing: PBT) และการสอบที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำข้อสอบ (Computer - Based Testing: CBT) กระทั่งปี 2005 ได้เปลี่ยนแปลงการสอบให้สอบผ่านอินเตอร์เน็ต Internet - Based Testing : IBT โดยเลิกใช้การสอบทั้ง 2 แบบไปเรื่อยๆจนกว่าการสอบผ่านอินเตอร์เน็ตจะแพร่หลายมากขึ้นและยกเลิกไปในที่สุดในประเทศไทยมีการสอบแบบระบบ IBT แล้วในกรุงเทพ ลาดกระบัง หาดใหญ่ นครปฐม ส่วนที่อื่นๆยังใช้ระบบ PBT อยู่คาดว่าจะเปลี่ยนไปใช้ระบบอินเตอร์ในการสอบทั้งหมดภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนระบบมาเป็นการสอบในระบบใหม่นั้น เพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจะพบว่าการสอบ TOEFL จะมีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อลบจุดบอดบางส่วนของเด็กต่างชาติที่ต้องการเรียนต่อในต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาการสอบ TOEFL สำหรับทั่วโลก โดย ETS ( Education Testing Service ) ต้นสังกัดของการจัดการสอบได้อธิบายเกี่ยวกับการจัดสอบ TOEFLระบบใหม่ดังนี้การสอบแบบ IBT เป็นการสอบทักษะภาษาอังกฤษแบบบูรณาการ เป็นการสอบที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษทั้งการพูด ฟัง อ่าน และเขียนในการสอบ โดยการสอบในแต่ละส่วนจะเชื่อมโยงกันทั้งหมด ผู้สอบต้องตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด เพราะ หมายความว่าเราเราจะตอบ พูด หรือเขียนไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ตั้งใจฟังตั้งแต่แรก การสอบแบบใหม่ช่วยลบจุดด้อยของนักศึกษาต่างชาติบางคนที่ได้คะแนนสอบดีแต่ไม่สามารถสื่อสาร นำเสนองานผ่านการพูดจาเป็นภาษาอังกฤษได้ดีอย่างที่ควรเป็น การสอบครั้งใหม่นี้จึงเหมือนการจำลองการเข้าไปศึกษาจริงในสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่อาจารย์ผู้สอนได้พูดถึงบทเรียนต่างๆ และการให้การบ้านเพื่อให้ทำรายงานและนำเสนอต่อหน้าอาจารย์ เรียกว่าการสอนในระบบใหม่นี้ไม่ได้ใช้เพียงทักษะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้นในการสอบแต่ละส่วนแต่การสอบในแต่ละส่วนในส่วนต้องใช้ทักษะอื่นด้วย เช่น การสอบเขียน ต้องฟังสิ่งสิ่งที่เขาพูด หรือสิ่งที่เขาให้มาตั้งแต่เริ่มสอบจนเข้าใจเสียก่อนที่จะเขียนตอบได้ไม่ใช่ให้เขียนตามโจทย์ที่ให้มาแบบ Essay ในแบบเดิมอีก ซึ่งระบบใหม่ทำให้รับรู้ถึงทักษะทางภาษาอังกฤษของแต่ละคนอย่างแท้จริงในส่วนของข้อดีในการใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเข้ามาช่วยในการสอบ อาทิ ความสะดวกในการสอบเพราะมีศูนย์สอบเพิ่มขึ้น ส่วนการสอบ Speaking จะส่งถึงศูนย์ใหญ่ที่อเมริกาได้ทันทีซึ่งหมายถึงการประเมินผลคะแนนจะสะดวกรวดเร็ว และเป็นมาตรฐานเดียวกันหมด รวมถึง การสมัครสอบ และการรับผลคะแนนแบบออนไลน์นั้นง่ายดายมากขึ้น
สำหรับการสอบ TOEFL แบบ IBT จะใช้เวลาสอบประมาณ 4 ชั่วโมง โดย เน้นการวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ เพื่อใช้ความรู้ทางภาษาไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับสูง โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 4 ทักษะ ดังนี้Readingเป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจของการอ่านในเชิงวิชาการของผู้สอบ โดยผู้สอบต้องตอบคำถามจากบทความ 3 บทความ ในแต่ละบทจะต้องตอบคำถาม 12-15 ข้อ ส่วนนี้ต้องทำข้อสอบรวม 39ข้อใช้เวลา 60 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30คะแนน Listening เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ผู้สอบต้องฟังบทสนทนาในประเด็นทั่วไป 2 เรื่อง และ สถานการณ์จำลองในห้องเรียน 4 เรื่อง ต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ยินแต่ละบทสนทนา และเรื่องที่ได้ฟัง โดยส่วนนี้ต้องทำข้อสอบ 35 ข้อใช้เวลา 60 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนนข้อสอบแบ่งเป็น Academic Lecture 4 เรื่อง/24 ข้อ Campus Conversation2 เรื่อง/10 ข้อ นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงข้อสอบไปจากเดิมบ้าง เช่น มีการนำสำเนียงอื่นที่ไม่ใช่สำเนียง American มาทดสอบด้วย Writing เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการเขียนในเชิงวิชาการ โดยผู้สอบต้องแสดงความสามารถในการใช้ภาษา และการคิดวิเคราะห์ การพัฒนาความคิดในประเด็นที่ได้อ่านจากข้อสอบ 2 ข้อใช้เวลา 55 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30คะแนนข้อสอบแบ่งเป็นคำถามที่ 1ผู้สอบจะได้อ่านบทความทางวิชาการในเวลาประมาณ 3 นาที และฟังการบรรยายที่เกี่ยวข้องกับสิ่ง ที่ได้อ่าน จากนั้นผู้สอบต้องสรุปบรรยาย หรือแสดงทรรศนะจากสิ่งที่ได้อ่าน และฟัง โดยต้องเขียน 150-220 คำในเวลา 25 นาที คำถามที่ 2ผู้สอบจะได้อ่านประโยคสั้นๆ และตอบคำถามโดยการบรรยาย หรือแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลจากสิ่งที่ ได้อ่าน โดยต้องเขียนอย่างน้อย 300 คำ ในเวลา 30 นาทีSpeakingเป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการพูดภาษาอังกฤษเนื้อหาเชิงวิชาการ ผู้สอบต้องตอบคำถามด้วยการพูด รวม 6 ข้อ หลังจากอ่านบทความ และการฟังบรรยายในแต่ละประเด็นข้อสอบใช้เวลา 20นาที ระดับ คะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนนข้อสอบ โดยแบ่งประเภทของคำถาม ดังนี้ คำถามที่ 1 และ 2 เป็นเรื่องราวที่ผู้สอบคุ้นเคย อาจเป็นประสบการณ์ หรือทัศนะส่วนตัว มีเวลาในการเตรียม ตอบคำถาม 15 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 45 วินาทีในแต่ละข้อ คำถามที่ 3 และ 4 ผู้สอบจะได้อ่านข้อความสั้นๆ ในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง จากนั้นจะได้ฟังบทสนทนา หรือการบรรยายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบทความนั้นนั้น ผู้สอบต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้อ่าน และฟัง โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา และตอบคำถามที่เหมาะสม มีเวลาเตรียมตอบคำถาม 30 วินาที และตอบคำถาม 60 วินาทีในแต่ละข้อ คำถามที่ 5 และ 6ผู้สอบจะได้ฟังบทสนทนาเพื่อการวิเคราะห์ในเชิงวิชาการ หรือฟังบรรยายทางวิชาการ ผู้สอบต้องตอบคำถามจากสิ่งที่อ่าน และฟัง โดยการวิเคราะห์ สรุปข้อมูลที่ได้มา และตอบคำถามที่เหมาะสม มีเวลาเตรียมตัวตอบคำถาม 20 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 60 วินาทีในแต่ละข้อ
วันเวลาและอัตราค่าสมัครสอบศูนย์สอบ TOEFL แบบ computer-based test มีการสอบทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ) ตลอดทั้งปี รอบเช้า: เริ่มสอบเวลา 9.00 น. รอบ บ่าย: เริ่มสอบ เวลา 13.00 น.สามารถสอบได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น แต่จะลงสอบทั้งหมดกี่ครั้งก็ได้ ไม่มีจำกัด โดยผลสอบ TOEFL มีอายุใช้ได้ 2 ปี ปัจจุบันในประเทศไทยมีอยู่เพียงที่เดียวคือInstitute of International Education - Southeast Asia (IIE) 6th Floor, Maneeya Center North 518/3 Ploenchit Road Pathumwan, Bangkok 10330 Tel: 0-2652-0653-4 อัตราค่าสมัครสอบ TOEFL iBT ค่าสมัครสอบ US$ 140 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าบริการ US$ 30 ดอลลาร์สหรัฐ
หลักฐานที่จะต้องนำไปในวันสอบ บัตรประจำตัวอย่างเป็นทางการ ที่มีรูปถ่ายของผู้สอบ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ ใบขับขี่ เบอร์ยืนยันการสมัคร ที่ได้รับเมื่อมีการนัดเวลาสอบ ชื่อสถาบันการศึกษาและคณะที่ต้องการจัดส่งรายงานผลการสอบไปให้ โดยที่ทางศูนย์สอบ จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ code lists ให้เลือก (ถ้ามี) CBT Voucher (ถ้ามี) คำแนะนำ
การเขียนชื่อ - นามสกุล ต้องสะกดชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษให้เหมือนกับในหลักฐานแสดงตัว โดยที่ใช้นามสกุลขึ้นต้นก่อน ตามด้วยชื่อจริง และจะต้องสะกดตามนี้ทุกครั้งที่กรอกรายละเอียดลงบนใบสมัครเมื่อต้องการเขียนจดหมาย ส่งแฟกซ์ ส่งอี-เมล์ หรือการติดต่อกับ ETS ซึ่งเป็นผู้จัดสอบ
โดยปรกติแล้วสถานที่จัดสอบจะเต็มอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรจะเตรียมส่งใบสมัครสอบพร้อมกับการชำระค่าสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนถึงวัน Deadline และควรจะใช้ใบสมัครสอบที่ทาง ETS จัดเตรียมไว้ให้ในคู่มือการสมัคร เพราะจะไม่สามารถไปสมัครสอบที่สนามสอบได้
หลังจากที่สมัครสอบไปแล้ว ผู้สอบจะไม่ได้รับใบเสร็จรับเงินสำหรับการชำระค่าสอบ เพราะจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สอบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นใบเสร็จรับเงินสำหรับการสอบอยู่แล้ว
ควรจะทำการทดสอบ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะมั่นใจได้ว่าคะแนนสอบจะถูกส่งถึงวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่ระบุไว้ ทันกำหนดปิดรับสมัคร
ใบรับสมัครสอบ TOEFL ไม่ใช่ใบสมัครเรียนในสถาบันต่าง ๆ ดังนั้นเราจะต้องส่งใบสมัครต่างหากไปยังสถานศึกษาที่สนใจ
คะแนนสอบ ที่มีอายุมากกว่า 2 ปี ทาง ETS ไม่สามารถให้การรับรองได้และจะไม่จัดส่งคะแนนสอบที่มีอายุ เกิน 2 ปี ให้แก่สถานศึกษาใดๆ
หลักฐานแสดงตัวในวันสอบเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก เมื่อไปถึงสถานที่สอบ โปรดแน่ใจว่าไม่ได้ลืมหลักฐานเหล่านั้น ตามที่ระบุไว้บนบัตรประจำตัวสอบ หากไม่มีหลักฐานจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า
ต้องเตรียมรูปถ่ายที่เห็นหน้าและไหล่ได้ชัดเจนเพื่อที่จะติดรูปไว้ที่บัตรประจำตัวผู้สอบ (Admission Ticket)
ไม่ควรจะไปรายงานตัวที่สนามสอบ หลังจากเวลาที่ระบุไว้ ในบัตรสอบ
สำหรับการสอบ TOEFL แบบ IBT จะใช้เวลาสอบประมาณ 4 ชั่วโมง โดย เน้นการวัดความรู้ทางภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ เพื่อใช้ความรู้ทางภาษาไปใช้ในการศึกษาต่อในระดับสูง โดยแบ่งเนื้อหาเป็น 4 ทักษะ ดังนี้Readingเป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจของการอ่านในเชิงวิชาการของผู้สอบ โดยผู้สอบต้องตอบคำถามจากบทความ 3 บทความ ในแต่ละบทจะต้องตอบคำถาม 12-15 ข้อ ส่วนนี้ต้องทำข้อสอบรวม 39ข้อใช้เวลา 60 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30คะแนน Listening เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการฟังภาษาอังกฤษ ผู้สอบต้องฟังบทสนทนาในประเด็นทั่วไป 2 เรื่อง และ สถานการณ์จำลองในห้องเรียน 4 เรื่อง ต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ยินแต่ละบทสนทนา และเรื่องที่ได้ฟัง โดยส่วนนี้ต้องทำข้อสอบ 35 ข้อใช้เวลา 60 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนนข้อสอบแบ่งเป็น Academic Lecture 4 เรื่อง/24 ข้อ Campus Conversation2 เรื่อง/10 ข้อ นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงข้อสอบไปจากเดิมบ้าง เช่น มีการนำสำเนียงอื่นที่ไม่ใช่สำเนียง American มาทดสอบด้วย Writing เป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการเขียนในเชิงวิชาการ โดยผู้สอบต้องแสดงความสามารถในการใช้ภาษา และการคิดวิเคราะห์ การพัฒนาความคิดในประเด็นที่ได้อ่านจากข้อสอบ 2 ข้อใช้เวลา 55 นาที ระดับคะแนนจะอยู่ที่ 0-30คะแนนข้อสอบแบ่งเป็นคำถามที่ 1ผู้สอบจะได้อ่านบทความทางวิชาการในเวลาประมาณ 3 นาที และฟังการบรรยายที่เกี่ยวข้องกับสิ่ง ที่ได้อ่าน จากนั้นผู้สอบต้องสรุปบรรยาย หรือแสดงทรรศนะจากสิ่งที่ได้อ่าน และฟัง โดยต้องเขียน 150-220 คำในเวลา 25 นาที คำถามที่ 2ผู้สอบจะได้อ่านประโยคสั้นๆ และตอบคำถามโดยการบรรยาย หรือแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผลจากสิ่งที่ ได้อ่าน โดยต้องเขียนอย่างน้อย 300 คำ ในเวลา 30 นาทีSpeakingเป็นทักษะที่ใช้วัดความเข้าใจในการพูดภาษาอังกฤษเนื้อหาเชิงวิชาการ ผู้สอบต้องตอบคำถามด้วยการพูด รวม 6 ข้อ หลังจากอ่านบทความ และการฟังบรรยายในแต่ละประเด็นข้อสอบใช้เวลา 20นาที ระดับ คะแนนจะอยู่ที่ 0-30 คะแนนข้อสอบ โดยแบ่งประเภทของคำถาม ดังนี้ คำถามที่ 1 และ 2 เป็นเรื่องราวที่ผู้สอบคุ้นเคย อาจเป็นประสบการณ์ หรือทัศนะส่วนตัว มีเวลาในการเตรียม ตอบคำถาม 15 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 45 วินาทีในแต่ละข้อ คำถามที่ 3 และ 4 ผู้สอบจะได้อ่านข้อความสั้นๆ ในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง จากนั้นจะได้ฟังบทสนทนา หรือการบรรยายในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับบทความนั้นนั้น ผู้สอบต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้อ่าน และฟัง โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา และตอบคำถามที่เหมาะสม มีเวลาเตรียมตอบคำถาม 30 วินาที และตอบคำถาม 60 วินาทีในแต่ละข้อ คำถามที่ 5 และ 6ผู้สอบจะได้ฟังบทสนทนาเพื่อการวิเคราะห์ในเชิงวิชาการ หรือฟังบรรยายทางวิชาการ ผู้สอบต้องตอบคำถามจากสิ่งที่อ่าน และฟัง โดยการวิเคราะห์ สรุปข้อมูลที่ได้มา และตอบคำถามที่เหมาะสม มีเวลาเตรียมตัวตอบคำถาม 20 วินาที และมีเวลาตอบคำถาม 60 วินาทีในแต่ละข้อ
วันเวลาและอัตราค่าสมัครสอบศูนย์สอบ TOEFL แบบ computer-based test มีการสอบทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ) ตลอดทั้งปี รอบเช้า: เริ่มสอบเวลา 9.00 น. รอบ บ่าย: เริ่มสอบ เวลา 13.00 น.สามารถสอบได้เพียงเดือนละครั้งเท่านั้น แต่จะลงสอบทั้งหมดกี่ครั้งก็ได้ ไม่มีจำกัด โดยผลสอบ TOEFL มีอายุใช้ได้ 2 ปี ปัจจุบันในประเทศไทยมีอยู่เพียงที่เดียวคือInstitute of International Education - Southeast Asia (IIE) 6th Floor, Maneeya Center North 518/3 Ploenchit Road Pathumwan, Bangkok 10330 Tel: 0-2652-0653-4 อัตราค่าสมัครสอบ TOEFL iBT ค่าสมัครสอบ US$ 140 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าบริการ US$ 30 ดอลลาร์สหรัฐ
หลักฐานที่จะต้องนำไปในวันสอบ บัตรประจำตัวอย่างเป็นทางการ ที่มีรูปถ่ายของผู้สอบ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ ใบขับขี่ เบอร์ยืนยันการสมัคร ที่ได้รับเมื่อมีการนัดเวลาสอบ ชื่อสถาบันการศึกษาและคณะที่ต้องการจัดส่งรายงานผลการสอบไปให้ โดยที่ทางศูนย์สอบ จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ code lists ให้เลือก (ถ้ามี) CBT Voucher (ถ้ามี) คำแนะนำ
การเขียนชื่อ - นามสกุล ต้องสะกดชื่อ-นามสกุล เป็นภาษาอังกฤษให้เหมือนกับในหลักฐานแสดงตัว โดยที่ใช้นามสกุลขึ้นต้นก่อน ตามด้วยชื่อจริง และจะต้องสะกดตามนี้ทุกครั้งที่กรอกรายละเอียดลงบนใบสมัครเมื่อต้องการเขียนจดหมาย ส่งแฟกซ์ ส่งอี-เมล์ หรือการติดต่อกับ ETS ซึ่งเป็นผู้จัดสอบ
โดยปรกติแล้วสถานที่จัดสอบจะเต็มอย่างรวดเร็ว ดังนั้นควรจะเตรียมส่งใบสมัครสอบพร้อมกับการชำระค่าสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนถึงวัน Deadline และควรจะใช้ใบสมัครสอบที่ทาง ETS จัดเตรียมไว้ให้ในคู่มือการสมัคร เพราะจะไม่สามารถไปสมัครสอบที่สนามสอบได้
หลังจากที่สมัครสอบไปแล้ว ผู้สอบจะไม่ได้รับใบเสร็จรับเงินสำหรับการชำระค่าสอบ เพราะจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สอบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นใบเสร็จรับเงินสำหรับการสอบอยู่แล้ว
ควรจะทำการทดสอบ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะมั่นใจได้ว่าคะแนนสอบจะถูกส่งถึงวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่ระบุไว้ ทันกำหนดปิดรับสมัคร
ใบรับสมัครสอบ TOEFL ไม่ใช่ใบสมัครเรียนในสถาบันต่าง ๆ ดังนั้นเราจะต้องส่งใบสมัครต่างหากไปยังสถานศึกษาที่สนใจ
คะแนนสอบ ที่มีอายุมากกว่า 2 ปี ทาง ETS ไม่สามารถให้การรับรองได้และจะไม่จัดส่งคะแนนสอบที่มีอายุ เกิน 2 ปี ให้แก่สถานศึกษาใดๆ
หลักฐานแสดงตัวในวันสอบเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมาก เมื่อไปถึงสถานที่สอบ โปรดแน่ใจว่าไม่ได้ลืมหลักฐานเหล่านั้น ตามที่ระบุไว้บนบัตรประจำตัวสอบ หากไม่มีหลักฐานจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า
ต้องเตรียมรูปถ่ายที่เห็นหน้าและไหล่ได้ชัดเจนเพื่อที่จะติดรูปไว้ที่บัตรประจำตัวผู้สอบ (Admission Ticket)
ไม่ควรจะไปรายงานตัวที่สนามสอบ หลังจากเวลาที่ระบุไว้ ในบัตรสอบ
การยกเลิกผลคะแนนเมื่อทำการสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถทำการยกเลิกผลสอบได้ แต่ควรทำการตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้
ไม่สามารถยกเลิกคะแนนเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งได้และไม่อนุญาตให้รับคะแนนส่วนที่เหลือ
ถ้ายกเลิกผลคะแนนไปแล้ว จะไม่มีรายงานส่งไปที่ใด ๆ ทั้งสิ้น
ไม่สามารถยกเลิกคะแนนเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งได้และไม่อนุญาตให้รับคะแนนส่วนที่เหลือ
ถ้ายกเลิกผลคะแนนไปแล้ว จะไม่มีรายงานส่งไปที่ใด ๆ ทั้งสิ้น
ไม่มีการคืนเงินไม่ว่ากรณีใด ๆ
ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการขอยกเลิก การขอคืนค่าคะแนนหลังจากที่ร้องขอยกเลิกไปแล้ว มีขั้นตอนและเงื่อนไข ดังนี้
1. ต้องส่งเรื่องให้ถึงทาง EST อย่างช้าที่สุด ไม่เกิน 10 วันโดยนับจากวันที่เข้าสอบ
2. ติดต่อที่ EST Service
3. ระบุรายละเอียดดังนี้ชื่อและวันเดือนปีเกิดเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวกเลขที่ลงทะเบียน (ในเอกสาร registration confirmation)
4. ค่าใช้จ่าย US$205. ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 3 สัปดาห์ นับจากวันที่ทาง ETS ได้รับเรื่องการรีสกอร์สามารถร้องขอให้คำนวณคะแนนในส่วนของการเขียนและการพูดให้ใหม่ได้ ระยะเวลาที่สามารถขอรีสกอร์ต้องไม่เกิน 3 เดือนนับจากวันที่เข้าสอบ และมีเงื่อนไขดังนี้1. การขอรีสกอร์จะทำได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น2. ถ้าขอรีสกอร์ทั้งสองส่วน คือ การเขียนและการพูด ทั้งสองส่วนจะดำเนินการแล้วเสร็จพร้อม ๆ กัน3. การขอรีสกอร์ในแต่ละส่วนมีค่าใช้จ่าย US$60 หากต้องการรีสกอร์ทั้งสองส่วนจะมีค่าใช้จ่าย US$1204. การดำเนินการจะต้องกรอก TOEFL iBT Rescoring Request Form. ให้เรียบร้อย5. ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 สัปดาห์นับจากวันที่ทาง ETS ได้รับฟอร์ม หลังจากดำเนินการเรียบร้อย ทาง ETS จะส่งรายงานคะแนนใหม่กลับมาให้การได้ใบรับรองคะแนน ผู้สอบจะได้รับในรายงานผลคะแนนรวมทั้งหมด 5 ฉบับ ดังนี้ - ฉบับแรกจะเป็นรายงานผลที่ส่งให้ผู้เข้าสอบ- อีก 4 ฉบับ จะเป็นรายงานผลคะแนนอย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้เข้าสอบสามารถเลือกว่าจะให้ทาง ETS ส่งตรงไปให้กับสถาบันหรือบริษัทใด โดยมีระยะเวลาในการจัดส่งประมาณ 1
5 วันหลังจากวันที่เข้าสอบหากต้องการมากกว่านี้ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่ม US$17 ต่อ 1 ฉบับสำหรับเงื่อนไขในการได้รับใบรับรอง มีดังนี้ (ต้องผ่านทั้ง 4 หัวข้อดังต่อไปนี้)ตอบคำถามอย่างน้อยที่สุด 1 คำถามในส่วนของการอ่าน (Reading)ตอบคำถามอย่างน้อยที่สุด 1 คำถามในส่วนของการฟัง (Listening) เขียนอย่างน้อย 1 บทความ ในส่วนของการเขียน (Writing) พูดอย่างน้อย 1 หัวข้อ ในส่วนของการพูด (Speaking) การลงทะเบียน และสิ่งที่ต้องนำไปวันสอบ ** ระหว่างทำรายการห้ามกด <-- Back ของ Internet Explorer มิฉะนั้น อาจต้องดำเนินการสมัครใหม่ตั้งแต่ต้น1. เข้าเว็บไซด์ http://www.ets.org/ แล้วเลือกที่ TOEFL 2. กดที่ Register for the Test 3. Select a testing Location เลือก Thailand 4. หัวข้อ Internet-based Test (iBT) กดที่ Register Online 5. ที่หัวข้อ New User กดที่ Sign Up แล้วกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน กด Continue
6. อ่านและกรอกรายละเอียดต่าง ๆ แล้วกด Continue
7. อ่านวิธีการกำหนด Username และ Password และใส่ Username กับ Password ตามต้องการ * Username ใส่ตัวอักษรภาษาอังกฤษหรือตัวเลขตั้งแต่ 6-16 ตัว และต้องไม่ใช่อักขระพิเศษ* Password ต้องใส่ตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็กและตัวเลข ผสมกันตั้งแต่ 8 ตัวแต่ไม่เกิน 16 ตัว มิฉะนั้นจะดำเนินการไม่ผ่าน* เลือกคำถามและใส่คำตอบในการขอรหัสผ่านใหม่ในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน
8. ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด และยืนยัน (Confirm) เพื่อเสร็จสิ้นการลงทะเบียน
9. หลังจากนั้น ระบบจะลิงค์มาที่หน้า My Home Page คลิกที่ Register for a Test/Order Score Reports 10. เลือก TOEFL Test และคลิก Continue
11. จะขึ้นหน้า Before You Begin ... จะอ่านรายละเอียดหรือไม่อ่านก็ได้ แล้วคลิ๊กที่ I agree
12. จะพบหน้า Register for a Test ให้ใส่รายละเอียด- Country/Location : Thailand- Region : จังหวัดที่สะดวก- Start Test Date : ใส่ช่วงเวลาที่เราต้องการสอบซึ่งการกำหนดระยะห่างของ Start Test Date และ End Test Date สามารถทำได้เพียง 60 วันเท่านั้น- End Test Date :* แล้วคลิ๊ก Search ระบบจะแสดงสถานที่สอบและเวลาขึ้นมา คลิ๊กเลือกตามที่คิดว่าสะดวกที่สุด
13. ยืนยันความถูกต้องด้วยการกด Continue
14. พบหน้า Score Reporting Preferences เลือก Web-accessible Score Report and a printed copy mailed to you แล้วกด Continue
15. หน้า Select Score Recipients: Part 1 of 2 ให้กรอกรายละเอียดของสถาบันที่อยากให้ส่งคะแนนการสอบไปให้ หรือ เลือกประเทศแล้วกด Search แล้วจึงค่อยเลือกสถาบัน (ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มหากส่ง Report ไม่เกิน 4 แห่ง)
16. หน้า Select Score Recipients: Part 2 of 2 สามารถเพิ่มสถาบัน (Add Another Score Recipient) เลือกแผนกที่จะส่งเอกสารที่จะจัดส่ง (Department:) ยืนยันการทำรายการ (Continue) และยกเลิกสถาบัน (Remove) ที่กรอกมาข้างต้นได้
17. หน้า Demographic Questions เป็นแบบสำรวจ จะตอบหรือไม่ก็ได้ แล้วกด Continue
18. หน้า Order Summary เช็ครายละเอียดและความถูกต้องให้เรียบร้อย ถ้าอยากแก้ไขส่วนไหน สามารถกดที่ Modifiy หากทุกอย่างถูกต้องแล้วให้กดที่ Confirm Order
19. หน้า Select Payment Method ใส่รายละเอียดการชำระค่าลงทะเบียน แล้วกด Continue สิ่งจำเป็นที่ต้องนำไปวันสอบ
Passport
ใบ Confirm ที่พิมพ์ออกมาจาก Internet ผลคะแนน TOEFL นั้น ไม่เฉพาะใช้สมัครเรียนในสถาบันการศึกษาที่เป็นระบบอเมริกันเท่านั้น ปัจจุบันประเทศต่างๆ กว่า 110 ประเทศ และสถาบันการศึกษากว่า 6,000 แห่งทั่วโลก ยอมรับผลคะแนน TOEFL ซึ่งเข้าไปตรวจสอบรายชื่อสถาบันการศึกษาในประเทศต่างๆ ว่ายินดีรับผลคะแนน TOEFL ได้ที่ http://www.ets.org/toefl
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น