วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การมองโลกในแง่ดี

การมองโลกในแง่ดี

1. รู้จักตัวเอง การรู้จักว่าคุณมีจุดอ่อนและจุดแข็งอยู่ตรงไหน ทบทวนถึงความผิดพลาดล้มเหลวที่ผ่านมาในชีวิตของคุณ และมองย้อนไปว่าจุดอ่อนที่ควรปรับปรุงของคุณอยู่ที่ไหน ถ้าพบแล้วก็จงปรับปรุงแก้ไขจุดที่บกพร่องนั้น เช่น ถ้าคุณเป็นคนพูดจาไม่เพราะ แต่มีจิตใจดีสิ่งที่ควรจะปรับ คือ การพูดจาให้นุ่มนวล ชวนฟัง ก็จะทำให้คุณได้รับความร่วมมือจากคนรอบข้างมากขึ้น หรือถ้าคุณเป็นคนใจร้อนหงุดหงิดง่าย ทำงานด้วยอารมณ์ที่ไม่แจ่มใส เพื่อนร่วมงานก็ไม่ชอบ คุณก็ควรจะปรับความใจร้อนหงุดหงิดลง ดูอารมณ์ของตนอยู่ตลอดเวลาถ้าจะเริ่มหงุดหงิดก็ควรหาวิธีหยุดยั้งตัวเอง อาจจะเป็นการนับ 1-10 หรือใช้วิธีการเดินออกจากเหตุการณ์ที่ทำให้คุณเริ่มหงุดหงิด ฯลฯ การมีอารมณ์ที่เยือกเย็นขึ้นจะทำให้เพื่อนร่วมงานยอมรับคุณมากขึ้นพูดคุยกันรู้เรื่องเข้าใจกันด้วยดี ส่วนจุดแข็งหรือสิ่งที่ดีที่คุณมีก็ให้คงไว้และทำให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น


2. เลือกมองแต่แง่ที่ดี การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ เมื่อคุณโชคร้าย ไม่สมหวังในสิ่งที่ต้องการคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวคุณนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีเป็นสิ่งที่เลวร้ายเสมอ นั่นจะเป็นการซ้ำเติมตนเองและทำให้รู้สึกสงสารตัวเอง และดำเนินชีวิตต่อจากนี้ไปอย่างทุกข์ระทมและขาดความสุขในชีวิต คุณจะรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า คงจะไม่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับคุณอีกต่อไปแล้ว อยากจะบอกคุณว่า แม้เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตคุณจะร้ายแรงแค่ไหน จนคุณคิดว่าคงไม่มีมนุษย์ไหนในโลกนี้ที่จะทำได้ คุณก็ต้องเผชิญกับมันต่อไปและต่อไป ในเมื่อคุณจะต้องพบกับสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ ทำไมคุณจึงไม่อยู่กับมันอย่างมีสติและมองหาสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับคุณ เลิกมองตนอย่างไร้ค่าและรู้สึกว่าตนเองเป็นคนไม่ดี ตนเองเป็นคนโชคร้าย เลิกสงสารตนเองและหันมาเริ่มต้นทำในสิ่งที่ดีๆ กับตนเอง และคนรอบข้างแล้วคุณจะพบว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ดีหรือเลวเพียงอย่างเดียว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณคนเดียวที่จะเป็นผู้บันดาลให้สิ่งใดเกิดขึ้นกับชีวิตคุณบ้าง


3. อยู่ใกล้ชิดหรือเลือกคบคนที่มองชีวิตในแง่ดี การคบคนเช่นไรคุณก็จะเป็นเช่นนั้น การอยู่ใกล้คนที่มีอารมณ์ดีมีมุมมองในการมองชีวิตในแง่ดี จะทำให้คุณซึมซับสิ่งเหล่านี้เข้าไปในใจของคุณและจดจำที่จะเลือกมองชีวิตในแง่ดีๆเช่นที่คนใกล้ชิดหรือคนในแวดวงของคุณ แต่ถ้าคุณมีกลุ่มเพื่อนหรือคนในแวดวงเป็นคนหงุดหงิดง่ายใจร้อน ขี้กังวล หวาดวิตกไปกับเรื่องต่างๆในชีวิตทุกเรื่อง มองคนและเหตุการณ์ต่างๆในชีวิตเป็นเรื่องที่เลวร้ายและไม่ดีไปเสียทั้งหมด จะทำให้คุณพลอยซึมซับสิ่งต่างๆ เหล่านี้เข้าไปในจิตใจของคุณ การอยู่กับคนที่เคร่งเครียดจริงจังกับชีวิตในทุกเรื่อง คุณก็จะพลอยเคร่งเครียดไปด้วย


4. อย่าลุ่มหลงงมงายปักใจเชื่อในความเชื่อผิดๆ ความเชื่อที่นำความรู้สึกเลวร้ายมาสู่ใจคุณ การให้ความเชื่อต่างๆ มาครอบงำในจิตใจคุณ เมื่อคุณประสบกับเหตุการณ์ที่ได้รับการบอกเล่าจากผู้หลักผู้ใหญ่ในเรื่องโชคลาภต่างๆ จนนำมาเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิต และจะวิตกกังวลอย่างมากมายเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาว่าไม่ดีนั้น จนเป็นเหตุให้คุณไม่กล้าตัดสินใจไม่กล้าลงมือกระทำสิ่งใดๆ ในชีวิต จนทำให้คุณสูญเสียโอกาสที่ดีๆ ของชีวิตไป


5. ฝึกการใช้เทคนิคมองตนเองในด้านบวก การฝึกให้คุณมีภาพแห่งความดี ความเก่ง ความเชื่อมั่น ในตัวเองไว้ในจิตใจ ของคุณ ถ้าคุณมีความวิตกกังวล มีความกลัว มีความเครียด ในจิตใจบ่อยๆคุณรู้สึกไม่มีความสุขในจิตใจเลย หามุมเงียบๆ สงบๆ แล้วหลับตา นึกถึงภาพของตัวคุณในเวลาที่มีความสุขที่สุด เก่งที่สุดและเก็บภาพนั้นไว้ในทุกวัน วันละ 5 นาที คุณจะรู้สึกมีความสุขและความกังวล ความหวาดกลัวในจิตใจของคุณจะลดลง


หวังว่าท่านผู้อ่านคงมีความสุขนะคะ 6-6


^^**

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น