วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

เล่นน้ำสงกรานต์อย่างไร ให้ปลอดภัย


เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลปีใหม่ของไทย ซึ่งนอกจากการทำบุญตักบาตรและรดน้ำดำหัวแล้ว ยังมีสิ่งที่นิยมทำควบคู่กันก็คือการเล่นน้ำสงกรานต์เพื่อความสนุกสนานและคลายร้อน แต่ในปัจจุบันกลับมีรูปแบบการเล่นน้ำที่รุนแรงมากขึ้น ส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสีย ชีวิตบ่อยครั้ง ฉะนั้นสงกรานต์ปีนี้จึงอยากเชิญชวนเล่นน้ำสงกรานต์ให้ปลอดภัยกันดีไหม ? ไม่ยากหากทำอย่างนี้


ผู้ที่เล่นน้ำ ไม่เล่นน้ำบนถนนที่กีดขวางการจราจรเพราะขณะเล่นน้ำอาจไม่ระมัดระวังทำให้ถูกรถเฉี่ยวชนได้ การไม่เล่นน้ำในลักษณะรุนแรงที่เกิดอันตรายต่อผู้อื่น อาทิ ไม่ใช้น้ำผสมสีหรือน้ำสกปรกหรือน้ำแข็งสาดใส่ผู้อื่น การไม่ใช้สายยางฉีดน้ำหรือปืนฉีดน้ำหรือกระบอกฉีดน้ำที่ดัดแปลงให้มีแรงอัดสูงฉีดใส่ผู้ขับขี่เพราะอาจไม่ทันระวังตัวจนเกิดรถเสียหลัก รวมถึงการไม่ฉีดใส่ผู้เล่นน้ำคนอื่นเพราะอาจได้รับบาดเจ็บถึงขั้นตาบอด อีกทั้งไม่ควรนำดินสอพองหรือแป้งผสมน้ำสาดใส่กระจกรถเพราะจะทำให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจนเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้



สำหรับผู้ที่เล่นน้ำที่บรรทุกน้ำไว้ท้ายรถกระบะและตระเวนเล่นน้ำ ควรจัดให้มีอุปกรณ์ยึดถังน้ำหรือใช้เชือกผูกมัดถังน้ำติดอยู่กับตัวรถเพราะอาจล้มทับผู้ที่อยู่บนรถ หรือไม่ควรลุกยืนขณะรถวิ่งเพราะอาจเสียการทรงตัวหล่นจากรถ อีกทั้งไม่ควรนำเด็กเล็กขึ้นไปเล่นน้ำบนรถเพราะอาจพลัดตกจากรถได้



ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำไม่ควรรวมกลุ่มขี่รถ จักรยานยนต์เล่นสาดน้ำเพราะจะทำให้เฉี่ยวชนหรือลื่นไถลได้ง่ายขึ้น



ผู้ขับรถ ควรรักษาความเร็วให้เหมาะสมและสม่ำเสมอ ไม่ควรขับรถด้วยความเร็วสูงในบริเวณที่มีการเล่นน้ำ และรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติเพราะสภาพถนนที่เปียกลื่นจะทำให้รถลื่นไถลเสียการทรงตัวเกิดอุบัติเหตุง่ายกว่าปกติ หรือการไม่ขับรถเปลี่ยนช่องทางไปมา หากกระจกถูกน้ำหรือน้ำผสมแป้งสาดให้เปิดที่ปัดน้ำฝนและฉีดน้ำชำระล้างกระจกซึ่งจะช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น และระมัดระวังผู้ที่เล่นน้ำริมสองข้างทางและรถจักรยานยนต์มากเป็นพิเศษ เพราะอาจเล่นน้ำจนขาดความระมัด ระวังอันตรายจากรถที่วิ่งสัญจรบนถนนจนอาจถูกเฉี่ยวชนได้


สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หากขี่รถผ่านบริเวณที่มีการเล่นสาดน้ำริมถนนควรลดความเร็วลงเพราะรถอาจลื่นไถลได้ง่าย


ที่สำคัญก็อย่าลืมรอยยิ้มและแบ่งปันน้ำใจให้กันด้วยนะ


ด้วยความปรารถนาดีจาก กลุ่มงานสุขศึกษา โรงพยาบาลลำปาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น