วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

รู้ทันกลโกงเครื่องสำอางในอินเตอร์เน็ต

ในยุคสังคมไซเบอร์เฟื่องฟู กิจกรรมทุกอย่างดำเนินได้ด้วยอินเตอร์เน็ต

เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถทำให้คุณได้เห็นหน้าพูดคุยกับคนที่อยู่ไกลถึงอีกฟากของ

โลกได้อย่างง่ายดาย การสื่อสาร ค้นหาข้อมูล หรือทำธุรกิจต่างๆ ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากหรือ

เปลืองค่าใช้จ่ายอีกต่อไป นับได้ว่าสะดวกสบายมากทีเดียวค่ะ


ในปัจจุบันมีธุรกิจเครื่องสำอางที่หันมาเอาดี ประชาสัมพันธ์กันในอินเตอร์เน็ต

มากเพราะประหยัด ไม่มีค่าเช่าหน้าร้าน สามารถอัพเดทข้อมูลต่างๆได้จำนวนมาก

เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจนี้เติบโต ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว

แต่ก็น่ากังวลพอๆ กับการ
ขยายข้อมูลของการหลอกลวง...


ผู้บริโภคจะรู้ได้อย่างไรว่าสินค้าชนิดนี้ดีจริงเหมือนที่โฆษณา ?
ซื้อของทางอินเตอร์เนตจะได้ของจริงหรือเปล่า?
มั่นใจได้อย่างไรว่าไม่ถูกหลอก?
มีแต่คนรีวิวว่าใช้แล้วดี ดีจริงหรือ หน้าม้าหรือเปล่า จะรู้ได้อย่างไร?
ของถูก ของดี หรือแจกฟรีไม่มีในโลก
วันนี้ เรามีคำตอบ มาช่วยให้ทุกท่านไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในวงการไซเบอร์

และฉลาดในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ด้วยค่ะ

1. ผู้บริโภคจะรู้ได้อย่างไรว่าสินค้าชนิดนี้ดีจริงเหมือนที่โฆษณา ?

คำตอบง่ายๆ คือ ไม่มีใครตอบได้ว่าสินค้านั้นดีจริง จนกว่าจะได้ลองใช้ด้วยตนเองค่ะ เพราะผิวหน้าของแต่ละคน แตกต่างกัน เพื่อนเราใช้ดี เรามาใช้ตามเพื่อนอาจไม่ดีแบบที่เพื่อนบอกก็ได้ ยี่ห้อที่เพื่อนแพ้เรามาใช้งานอาจหน้าเด้ง ไปเลยก็มี ดังนั้น ความคาดหวังว่าจะใช้ให้เห็นผลดี ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพผิวหน้าของแต่ละคน

การใช้ครีมอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง วิธีการใช้งานที่ถูกต้อง
พึงระลึกอยู่เสมอว่า เครื่องสำอางที่ดี คนขายที่มีจรรยาบรรณจะไม่ใช้คำทำนองว่า

“หน้าขาวใน7วัน” , “รักษาสิว ฝ้า
หายขาด” ,“เปลี่ยนสีผิวถาวร” , “ได้ผล100 %” เนื่องจากเป็นลักษณะต้องห้ามประกาศโฆษณาของทาง
อย.มีความผิดตามกฏหมาย เพราะเครื่องสำอางไม่ใช่ยาจึงไม่มีผลในการรักษา และในกรณีเปลี่ยนสีผิวก็ไม่เป็น
ความจริงเพราะพื้นฐานผิวคนเราไม่อาจเปลี่ยนแปลงเมลานินที่มาแต่กำเนิดได้ โฆษณาดังกล่าวจึงเข้าข่ายหลอกลวง

2. ซื้อของทางอินเตอร์เนตจะได้ของจริงหรือเปล่า? จะมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่ถูกหลอก?
ปัจจุบันมีมิจฉาชีพที่ใช้ช่องทางทางอินเตอร์เนตในการหลอกลวงอยู่มาก เราจะพบเห็นข่าวได้บ่อยๆ ว่ามีผู้ถูกหลอกให้ ซื้อสินค้าทางอินเตอร์เนต เมื่อโอนสตางค์เสร็จกลับไม่ได้ของที่สั่งซื้อ โทรตามติดต่อไม่ได้ ปิดเว็บหนีไป หรืออาจได้ของที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงกับที่ตกลงไว้ แล้วไม่รู้จะตามหาคนขายที่ไหน สิ่งที่สามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ สั่งซื้อได้ คือ

2.1 ให้ดูความน่าเชื่อถือว่าเว็บไซท์นั้นมีคนเข้ามาใช้งานนานหรือยัง ดูจำนวนคนเข้า วันที่เปิดใช้งานที่หน้าแรก

(เว็บไซท์ขายของออนไลน์มาตรฐานทั่วไปจะมีข้อมูลเหล่านี้แสดงอยู่) บางเว็บไซท์มีรูปผู้ใช้งานจริง มีการถามตอบ
อัพเดทตลอดทุกวัน ก็แสดงถึงความนิยมของผู้ใช้งานและความใส่ใจจากคนขาย หากเป็นเว็บที่ไม่มีการอัพเดทข้อมูล

ข้อมูลที่อัพเดทล่าสุดแสดงไว้เมื่อหลายเดือนก่อนก็ให้สันนิษฐานว่าไม่มีการดูแลจากเจ้าของเว็บหรือคนขายไซท์เลย

( แต่ก็อย่าประมาทนะจ๊ะ เพราะมีโปรแกรมเปลี่ยนตัวเลขจำนวนคนเข้าให้ดูเยอะๆน่าเชื่อถือได้เหมือนกัน)

2.2 ปัจจุบันเว็บไซท์ที่ทำการค้าจดทะเบียน ขายของออนไลน์อย่างถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือต้องลงทะเบียนเปิดเผยข้อมูล

ตัวตนในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ อาจสังเกตที่เครื่องหมายถูก

trust ที่ปรากฏอยู่ที่หน้าเว็บไซท์
หรืออาจลองสอบถามข้อมูลว่าคนขายนั้นมีการจดทะเบียนการค้าพาณิชย์ถูกต้องหรือไม่ ขอดูเอกสารราชการผ่านทางอีเมล

เพราะหากเขามีความจริงใจแก่ผู้บริโภคก็จะจดทะเบียนแสดงข้อมูลตัวตนได้ และไม่กลัวที่จะแสดงเอกสารให้คุณทราบ
หรืออาจสอบถามว่ามีการจดทะเบียนบริษัทหรือไม่ เพราะผู้ขายที่มุ่งทำการค้าอย่างจริงจัง มีที่อยู่หลักแหล่งเชื่อถือได้แน่นอน
จะจดทะเบียนบริษัท ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจในกรณีที่ต้องการสอบถามปัญหาการใช้งานก็สามารถติดตามได้ไม่ยาก
หากเว็บไซท์ใดไม่ลงชื่อที่อยู่บริษัท หรือที่อยู่ประกอบการเลย มีแต่เบอร์มือถือก็สันนิษฐานได้ว่าอาจไม่มีตัวตนอยู่จริง
และไม่มีความจริงใจในการเปิดเผยแหล่งที่อยู่ของตน


2.3สินค้าที่อ้างว่าใช้ดี เห็นผลไว เป็นคนละเรื่องกับการมี อย.
ถามคนขายเลยค่ะว่ามี อย ไหม เครื่องสำอางทุกตัวแม้แต่
ส่วนผสมสมุนไพรก็ต้องมี อย.ค่ะ ให้ตรวจสอบก่อนทุกครั้งว่าสินค้าผ่านการจดแจ้ง มีเลขทะเบียน อย จริงหรือไม่
เข้าไปดูตัวอย่างวิธีค้นว่าเครื่องสำอางไหนที่ได้รับอย.จากเว็บไซท์ของ อย.เอง ได้ที่ http://www.fujicream.com/

customize-ความมั่นใจกับฟูจิ(full)-87826-1.html เพื่อความแน่ใจ เชื่อตัวเอง เชื่อ อย. อย่าเชื่อโฆษณาหรือบุคคล
กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานค่ะ
3. มีแต่คนรีวิวว่าใช้แล้วดี ดีจริงหรือ หน้าม้าหรือเปล่า จะรู้ได้อย่างไร?
ต้องยอมรับว่ากระแสความปรารถนาดี ใช้ดีแล้วบอกต่อ การแสดงตัวตนความเป็นเพื่อน เพื่อ ถาม-ตอบ ในเวบบอร์ด
กำลังเป็นที่น่าเชื่อถือ และนิยมใช้เพื่อความ “เนียน” มากกว่าการแม่ค้าจะซื้อแบนเนอร์ พื้นที่โฆษณากันแบบตรงๆ
เมื่อคุณพบเห็นข้อความแสดงความหวังดี หรือบอกต่อ ต้องใช้วิจารณาฟังความมากๆ หลายๆ ด้าน อย่าเพิ่งปักใจ
เชื่อคำพูดของการถามตอบในเวบบอร์ด เพราะนั่นอาจทำให้คุณกำลังตกเป็น “เหยื่อ” อยู่ก็ได้
3.1 มีการตั้งกระทู้ มักมีคนเข้ามาตอบกระทู้บอกว่า

“ เมื่อก่อนหน้าเรามีสิวเยอะเลย แต่ใช้อันนี้แล้วดีหายเกลี้ยง
ลองโทรมาคุยกะเราสิ…”
3.2 เมื่อมีการถามถึงเครื่องสำอางยี่ห้ออื่นๆ ที่ตนเองไม่ได้ขาย หรือที่ตนเองไม่ชื่นชอบ ไม่อยากเชียร์
จะใช้วิธีตอบว่า
“ใช้แล้วไม่ดี ใช้...ดีกว่า” , “อย่าใช้เลย ยี่ห้อนี้ชื่อเสียงไม่ดีนะ” , “ขอเตือนด้วยความหวังดีว่า
อย่าเสี่ยงดีกว่า” หรือแม้แต่สร้างกระแสด้วยการโพสหัวข้อโจมตีซ้ำๆ ให้คนเข้าใจว่าเครื่องสำอางยี่ห้อนั้นไม่ดีจริงๆ
มีการแทคทีมกันถามตอบ ชงเรื่องแบบเป็นกระบวนการ คนหนึ่งถาม อีกคนหนึ่งเข้ามาตอบ อีกคนหนึ่งอาจทำทีเข้ามา
กล่าวหาให้เสียหาย ดิสเครดิต ในระยะเวลาใกล้กัน และเมื่อตรวจสอบดู ip address อาจพบว่ามาจากหน่วยงานเดียวกัน
หรือปลอมไอพีเอา
3.3 สำหรับเวบบอร์ดใหญ่ๆที่มีระบบสมาชิก หากสงสัยชื่อเมมเบอร์ใดที่มักตอบกระทู้โจมตีเรื่องใดเป็นพิเศษ
คุณอาจเสริชชื่อเมมเบอร์คนนั้นตามกูเกิ้ลดู บางครั้งจะพบว่าชื่อสมาชิกนั้นๆ ขายหรือมีความเกี่ยวข้องกับเครื่องสำอาง
ยี่ห้ออื่นอยู่ตามเว็บอื่น เท่านี้คุณก็ทราบแล้วว่าสาเหตที่เขาโพสเชียร์ยี่ห้อใด หรือรีวิวยี่ห้อใดเป็นพิเศษนั้นเพราะ...อะไร
หรือบางคนอาจไม่ได้เป็นแม่ค้าแต่เคยใช้เครื่องสำอางนั้น(แต่ใช้ถูกของปลอมแล้วหน้าพัง) ทำให้เกิดอคติเหมารวมว่า
เครื่องสำอางนั้นไม่ดี แท้ที่จริงแล้วตัวเองไปซื้อของปลอมราคาถูกมาใช้ หรือแม้แต่ทำไม..เขาจึงจงเกลียดจงชังใส่ร้าย
อีกยี่ห้อเสียนี่กระไร... ก็เพราะเป็นคู่แข่งมาแกล้งกันนี่ไง เป็นต้น
4. จำไว้ว่าของถูก ของดี ของฟรีไม่มีในโลก
4.1 อย่าใช้เครื่องสำอางที่ราคาถูกกว่าท้องตลาดเกินจริง ยกตัวอย่าง เช่น มีเว็บไซท์กล่าวอ้างว่าสามารถนำเข้ามา
ได้ถูกกว่าเคาท์เตอร์ตามห้างราคาถูกกว่าครึ่งถึงครึ่ง หรือกลุ่มคนที่อ้างว่าหิ้วของมาขายเองก็ใช่ว่าจะเป็นของแท้เสมอไป
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือก่อนว่าสามารถไว้วางใจได้หรือไม่ จำไว้ว่าไม่มีใครขายของขาดทุน เขาขายคุณราคาไหน
ต้นทุนเขาต้องถูกกว่าที่ขายให้คุณอยู่แล้ว หากว่างอาจลองไปเดินหาข้อมูลแหล่งขายของปลอมแถวตลาดโรงเกลือ
ตลาดบินไทยดอนเมือง ที่ทางตำรวจและ อย.ประสานงานจับของละเมิดลิขสิทธิ์บ่อยๆ จะพบว่าของที่คุณเข้าใจว่านำมา
จากเมืองนอก อาจกวนครีมผสมกันเองแถวนี้แหละค่ะ
4.2 ของดี นั้นดีจริงไหม ดีเว่อร์ขนาดทาหน้าแล้วสิวยุบใน 1 วัน หน้าขาวภายใน 3วัน 7 วัน ครีมอะไรจะดีอย่างนี้...
ฝ้าที่เคยเป็นก็หาย หน้าขาวเร็วสมใจ ราคาสบายกระเป๋า ซื้อครีมกระปุกเป็นพันเป็นหมื่นยังไม่ขาวไวเท่ากับครีมตัวนี้เลย เจอแบบนี้ให้ระวังนะคะ ลองเลิกใช้ครีมตัวนั้นสิคะ เลิกสัก10-15 วัน อาการจะเริ่มออกชัดเจน คือ หน้าดำ สิวขึ้น
มีผื่นแดงคัน พวกนี้คืออาการของการติดสารอันตรายพวกปรอท ไฮโดรควินโนน สเตียรอยด์ พวกนี้ทำให้หน้าขาวไว แต่หยุดใช้ไม่ได้ อาการออกค่ะ ต้องตกเป็นทาสเครื่องสำอางเถื่อนผิดกฏหมายแถมใช้ไปหน้าพังถาวรรักษาไม่ได้
ไม่คุ้มกับของราคาถูกเลยค่ะ คำกล่าวอ้างว่าของดี ของถูกอย่าเชื่อจนกว่าจะมีหลักฐานยืนยัน เช่น ตรวจสอบ อย ได้ มีช่องทางการจำหน่ายที่น่าเชื่อถือ ชัดเจน (ไม่ใช่ขายแผงลอยตามตลาดนัดแบกะดิน) มีcall center บริการตลอดเวลา มีหน้าร้านแบบเปิด เผยในห้างสรรพสินค้า ขายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ (เพราะกว่าห้างจะให้นำไปวางขายได้ต้องมีกระบวนการ ตรวจสอบที่เข้มงวดมากหลายชั้นอยู่แล้ว ก็เป็นความมั่นใจอย่างหนึ่งว่ามีคนตรวจสอบรับรองให้เราระดับนึงแล้วว่าครีมปลอดภัย)
หรือ มีสาขาที่ถูกต้องลงทะเบียนอย่างเป็นทางการตรวจสอบได้ว่าขายที่ไหนบ้าง มีสำนักงานใหญ่ มีเบอร์โทร 02
ไม่ใช่เบอร์มือถือเติมเงินทั่วไป ประสานงานได้ชัดเจน ทำตามกฏและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการ
จำไว้ว่าแม่ค้าเขาเห็นเรารู้ และตรวจสอบเองเป็นก็จะไม่กล้าหลอกเรา เพราะไม่ใช่หมูให้เชือดกันได้ง่ายๆ ดังนั้นใช้เกณฑ์คร่าวๆ ตามนี้ในการคุ้มครองสิทธิให้ตัวคุณเองนะคะ เพื่อจะได้มีใบหน้าที่ขาวใส ไร้สิว มีสุขภาพผิวที่ดีแบบ
ปลอดภัย ไม่เจอใครหลอกค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจากบริษัทฟูจิครีมดอทคอมจำกัด
www.fujicream.com ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น