วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

จัดการกับความเครียด



1.คิดเชิงบวก และมีอารมณ์ขัน ฝึกตัวเองให้คิดและมองโลกในแง่ดี เชื่อว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไข เปิดใจให้กว้างยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น ยอมรับว่าคนเราย่อมผิดพลาดได้และความผิดพลาดคือประสบการณ์ที่ดีที่ทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเอง มองแต่ข้อดีของเขาและฝึกการให้อภัย จะทำให้เราสบายใจ


2. ขอคำปรึกษา พูดคุยระบายกับคนที่เราไว้วางใจเช่น แฟน เพื่อน พ่อแม่ เจ้านายหรือโทร ปรึกษาสายด่วนสุขภาพ 1667,1323 ของกรมสุขภาพจิต


3.ออกกำลังกาย นี่เป็นวิธีคลายเครียดที่ได้ผลดีและเป็นที่นิยมเพราะการออกกำลังกายทำให้ ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขและกล้ามเนื้อผ่อนคลาย การออกกำลังกายต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเองเช่น เดิน วิ่ง เต้นแอโรบิค โยคะ รำกระบอง เล่นฟุตบอลฯ เป็นต้น


4. ทำกิจกรรมที่ชอบ เช่นฟังเพลง อ่านหนังสือ /หนังสือธรรมมะ สปานวดตัว อาบน้ำอุ่นๆ ท่องเที่ยว ปลูกต้นไม้ หรือทำกิจกรรมที่เราชอบอะไรก็ได้ที่ทำแล้วรู้สึกผ่อนคลายหากว่าทดลองทำมาหลายวิธีแล้วยังไม่หายเครียด หรือเครียดเพิ่มขึ้นให้รีบมาพบแพทย์หรือผู้เชียวชาญเฉพาะด้านอย่าง เช่น โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์ คลีนิกคลายเครียด เป็นต้น

1 ความคิดเห็น:

  1. เรื่องของดิฉันเครียดไปมั๊ยคะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

    ดิฉันแต่งงานเมื่อปลายปี พ.ศ. 2534
    และได้อยู่กินกับสามีด้วยดีจนมีลูกสาว ลูกชายอย่างละคน
    ชีวิตก็มีความสุขดี มีรถยนต์ มีบ้านในเนื้อที่ 24 ตารางวาบนถนนแจ้งวัฒนะ
    ดิฉันมีน้องสาว 1 คนเค้าไปได้สามีเป็น ตลก คาเฟ่ ที่มีเมียหลวงอยู่แล้ว
    ตอนหลังเค้าเลิกกัน เหมือนชะตาชีวิตเล่น ตลก
    เขามาหาดิฉัน ดิฉันก็ให้น้องสาวมาอยู่ด้วยกัน
    แต่ว่ามาคนเดียวนะคะส่วนลูกๆอยู่กับสามีเขา
    น้องสาวมาอยู่กับดิฉันได้หลายปี จนมา วันหนึ่งหัวใจดิฉันเกือบสลาย
    คือสามีดิฉันจะเลิกงานเวลา 24.00 น.และในเวลา 00.45 น.
    ดิฉันได้ยินเสียงรถของสามีมาถึงบ้านแล้วแต่ดิฉันก็หลับต่อ มาตกใจตื่นตอน
    ตี 2 กว่านิด หน่อย ไม่เห็นสามีนอนอยู่
    ลุกขึ้นไปดูที่ห้องลูกๆก็ไม่มี ในห้องน้ำก็ไม่มี
    ใจหายวาบ!! ( เจ้าประคู้น ผีบ้าน ผีเรือน เล่น ตลก ดลใจ ให้คิดอะไร แปลก ๆ)
    รีบลงมาที่โซฟาข้างล่างก็ไม่มี
    รถยนต์ก็จอดอยู่แต่สามีดิฉันไปไหน
    มองที่ประตูบ้านก็ใส่กลอนอยู่ ไม่ ตลก แล้ว
    ดิฉันหัวใจเต้นแรงมาก
    เหลืออยู่ห้องเดียวคือ...ห้องน้องสาว..ของดิฉัน
    ดิฉันเดินไปเปิดไฟจนสว่างทั่วบ้าน
    หัวใจเต้นแรงผิดปกติอยากจะเป็นลม
    แล้วมองไปที่ห้องของน้องสาว แล้วพยายามตั้งสติ คิดในใจว่า
    ถ้าเขาเดินออกมาจากห้องนั้น ดิฉันจะทำอย่างไร
    ดิฉันนั่งมองประตูห้องของน้องสาวน้ำตาก็ไหล
    นึกในใจ ว่า จะทำอย่างไร ?
    เราจะทำอย่างไรดี
    ลูกก็ยังเล็กดิฉันตัดสินใจ ? เลิก?
    ยังไงก็ต้องเลิก เทวดาฟ้า ดิน ทำไม เล่น ตลก กับฉันอย่างนี้
    แล้วให้เขาไปอยู่กับน้องสาวที่อื่น ส่วนดิฉันจะอยู่กับลูกๆ
    คือจะยกสามีให้น้องสาวไป ถ้าเขารักกัน
    จนประมาณ ตี 3 กว่าๆ
    ดิฉันนึกขึ้นได้ ว่าถ้าดิฉันโทรฯเข้า มือถือ เขาแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ต้องดังออกมาจากห้อง น้องสาวแน่ๆ
    เป็นไง เป็นกัน ดิฉันตัดสินใจ โทรฯ แล้วก็ติดจริงๆ ค่ะ
    ใจดิฉันเต้นแรงมาก จนเกือบหลุดออกมาข้างนอก
    ดิฉัน ยืนอยู่หน้าห้องน้องสาว.... แต่เอ๊ะ ไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากในห้องของน้องสาวเลย แต่โทรฯ ติด แล้วเขาอยู่ไหน ?? ฮัลโหล ๆๆๆๆๆ

    เธออยู่ไหน ?อย่ามา เล่น ตลก กับชั้นนะ!! ดิฉัน ตวาด
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ก็นอนอยู่ในรถสิ อีบ้า
    รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้กูจะกลับดึกยังเสือก ล๊อค ประตูอีก ยุงก็กัด.

    ติดตามเรื่องตลกคลายเครียดได้ที่

    http://ta-lok.blogspot.com

    ตอบลบ