วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การเรียนพิเศษให้ได้ผล

1. กลับมาแล้วต้องรู้จักทวน ถ้าไม่ทวนสิ่งที่เรียนก็เท่ากับศูนย์ไม่ต้องบอกก็ไม่มีใครไม่รู้ใช่ไหมล่ะ แต่ว่าจะให้ทำก็ยาก เราก็เลยมีเคล็ดลับให้
- แปะคำเตือนใจไว้รอบบ้าน คำพูดที่กระตุ้นแรงฮึดอะไรแบบนี้
- เพื่อนที่ดี เพื่อนที่ดีนี่คือเพื่อนแข่งกันเรียนนะขอรับ เราเองก็ยอมแพ้ความขยันของคนอื่นไม่ได้ใช่ไหมละ เห็นเพื่อนตอบเอาๆในห้องแล้วมันรู้สึกหมั่นไส้อะไรแบบนี้666+
- เป้าหมาย จขบ.มีคนที่เป็นเป้าหมายและฐานที่เราจะเอาไว้ปีนขึ้นไปค่ะ ความต่างที่ไม่สามารถลบล้างได้ก็คืออายุ (ลูกพี่ลูกน้องเราเองล่ะ) แต่ในทางกลับกันถ้าเราก้าวข้ามเค้าคนนั้นได้ เราก็จะเก่งขึ้นใช่ไหมล่ะ เห็นแบบนี้เราก็รักใคร่กับพี่เราดีนะฮ่ะ

2.การบ้านต้องทำด้วยนะถ้าเราเปรียบตัวเองเป็นนักรบ แบบฝึกก็คือสนามรบค่ะ นักรบที่ผ่านสนามรบมาโชกโชนเค้าก็จะเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ถ้าใครรู้สึกว่าโจทย์ที่เรียนพิเศษให้มันยากก็ลองไปซื้อแบบฝึกหัดเพิ่มเติมดูทำเพิ่มเบสิคให้แน่น จะได้ทำโจทย์ที่ใช้เทคนิกยากๆได้ เห็นจขบ.พูดแบบนี้เราเองก็พยามทำแล้วแต่ว่ามันต้องอาศัยเวลาอยู่ดี +

3.แค่การบ้านที่เรียนพิเศษมันไม่พอหรอกคุณอยากเก่งระดับเทพใช่ไหม แค่โจทย์ระดับร้อยข้อในหนังสือเรียนพิเศษมันไม่พอหรอก ต่อให้คุณทำหลายๆรอบจนแม่นจนจำโจทย์และช้อยได้ทุกข้อ มันก็เเหมือนกบในกระลาครอบนั้นแหละ กรุณาไปหาโจทย์เพิ่มบ้าง ที่เราได้ยินมา ย้ำได้ยินมา คนที่เค้าเทพๆทำโจทย์กันวันละสองร้อยข้อและเป็นสองร้อยข้อที่ยากสุดๆ ไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่า แต่ที่เรารู้คือถ้าเราทำมากก็ได้มาก

**คำเตือน โจทย์ที่ดีคือโจทย์ที่คุณได้ทำสารภาพตามตรง จขบ.ใช้วิธีจำแนว+วิธีทำโจทย์ที่เรียนพิเศษ ไม่ต้องทำได้ถูกหมดทุกข้อนะ แล้วไปเก็บปม(จุด)ด้อยที่โจทย์ที่เราหามาเพิ่มเอา เนื่องจากเวลามันไม่อำนวยและออกแนวขี้เกียจไม่สามารถรอจนทำถูกได้หมด

4.ยิ่งอ่านมากก็ได้มากคุณคิดว่าอ่านแค่ที่เรียนพิเศษมันพอเหรอ คิดว่าเรียนพิเศษเค้าสามารถสอนเนื้อหาปลีกย่อยทั้งหมดให้คุณได้หมดเหรอ ขอบอกว่าไม่มีทาง

~ อาจารย์สอนที่เรียนพิเศษตามสถาบันคนแรกและคนเดียวที่เราเคารพจากใจจริง อ.เอกฤทธิ์ หมั่นบอกเสมอว่าให้ไปอ่านหนังสือข้างนอกด้วย และสิ่งที่คุณจะพบคือ
- เนื้อหามันไม่ตรงกัน ส่วนวิชาอื่นก็ชั่งน้ำหนักระหว่างเรียนพิเศษ หนังสือที่อ่าน อาจารย์ การเถียงกับเพื่อน และบอร์ดวิชาการที่ไว้ใจได้(กรณีที่มันเป็นปัญหาที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้อย่างแน่ชัด)
- เนื้อหาปลีกย่อยแปลกๆ ในบางเรื่องเราว่ามันไม่จำเป็นต้องจำ แต่แค่พอรู้หรือได้ดูผ่านๆตาก็พอ- ทำให้เราจำได้แม่นขึ้น ภาษาหลายๆภาษาที่หนังสือแต่ละเล่มขียนจะเป็นภาษาเฉพาะบุคคลแนวใครแนวมัน ออกแนวแปลไทยเป็นไทย เมื่ออ่านมากคุณจะแปลภาษาแปลกๆได้เก่งขึ้น

5.จดShort Noteตั้งแต่เรียนพิเศษอย่างเต็มภาคภูมิ แต่จริงๆแล้วมันได้ผลมากๆเลยนะ ตอนช่วงม.4เทอมหนึ่งที่เราอ่านเองเกือบทุกวิชา(ยกเว้นเลขกับอังกฤษ) ช๊อตโน้ตเนี่ยช่วยเราได้มาก ทำให้เราแม่นขึ้น

6.ไฮไลท์ ปากกาสี โพสอิดบรรดาของแพง ที่สำคัญกรุณาอย่างใช้สีหลากหลายจนเกินไป มันจะทำให้เกิดอาการลายตา ซึ่งการลงสีจะสวยขนาดไหนมันก็ขึ้นอยู่กับการฝึกปรืของแต่ละคนจดใส่โพสอิดอีกทีแปะไว้หน้าเดียวกัยตรงที่จดลายตานั้นแหละ พวกสูตรบางครั้งเราก็ใช้นะแต่ส่วนใหญ่จะใช้กระดาษA4พับครึ่งแล้วใช้ปากกาหัวใหญ่เขียนมากกว่า

7.มีสมาธิตอนเรียน ใครกำลังลดความอ้วนหรือขี้เกียจกินข้าวเช้า กรุณาเลิกซะ!! เราไม่ขออ้างทฤษฎีชีวะอะไรทั้งนั้น แต่เราเจอมาด้วยตัวเราเอง กินข้าวเช้ามาแล้วรู้สึกหิวตอนเรียนภาคเช้าเสร็จ ขี้เกียจเดินไปหาอะไรกินเลยไปเรียนภาคสายต่อเลย พอเริ่มไปประมาณครึ่งชั่วโมงหิวโคตร~ สมาธิหดหาย

8.นอนให้พอเหมือนเตือนสติตัวเองอยู่เลยแฮะ ปกติเวลานอนอิ่มของเราอยู่ที่7-9ชั่วโมง ซึ่งเป็นอะไรที่มาก แต่เรากว่าจะทำอะไรเสร็จก็ปาเข้าไปห้าทุ่มต้องตื่นตีห้าครึ่ง มันเป็นอะไรที่ช่วยไม่ได้ก็เลยต้องหัดพยามตื่นเอาสุดท้ายก็ตื่นได้เพราะนาฬิกาชีวภาพมันปรับแล้ว แต่ขอนอนยันเลยว่าควรนอนให้เต็มอิ่ม

9.ก่อนอ่านต้องทำใจให้สบาย ให้รู้สึกสนุกกับการอ่านหนังสือ- นั่งสมาธิ เบสิคสุดๆเลยใช่ไหมล่ะ มันช่วยได้จริงๆค่ะ เราใช้วิธีฟังเพลงแล้วร้องตาม(แหกปาก)มันก็จะเกิดสมาธิ วิธีใครวิธีมันนะขอรับ
- เล่นเน็ต อย่าเล่นนานเกิน เรามักจะไม่ใช้วิธีนี้เพราะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ การเล่นเน็ตมันจะช่วยตัดความอยากที่จะเล่นของคุณ แล้วหัวคุณก็จะโล่งพร้อมที่จะรับรู้สิ่งใหม่ๆ ออกแนวตูอยากเล่นแล้วต้องได้เล่นก่อนอ่านหนังสือ555+

10.อย่าหักโหมจนเกินไปเวลาอ่านก็ต้องรู้จักพัก รู้จักหลับรู้จักนอน(เหมือนกำลังด่าตัวเองอยู่) ห้ามหักโหมเด็ดขาด ลูกฮึดอย่างเดียวไม่พอหรอกนะคะ ต้องร่างกายแข็งแรงด้วย

11.ลงเรียนพิเศษต้องลงเองให้คุ้มค่าและเหมาะกับเราที่สุดใจเราต้องอยากลงเองไม่ใช่โดนบังคับ จขบ.เริ่มมีใจอยากเรียนเองจริงๆก็ช่วงม.4นี่แหละค่ะ ก่อนหน้านั้นเหมือนจะใช่แต่ก็ไม่ใช่ ตัวเราที่เป็นคนจัดเวลาลงเองก้จะรู้จุดอ่อนรู้ขีดจำกัดของตัวเองทำให้ลงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญอย่างลงถึกจนเกินไปไม่มีเวลาทวนแบบนั้นไม่ดี

สรุป สิ่งที่ต้องใช้ "ความขยันที่สม่ำเสมอ ลูกฮึกที่มีอันล้นหลาม และการจัดเวลา"

หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆคน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น